เยนส์ เลห์มันน์ : ผู้มาปืนเพื่อมือหนึ่งอินทรีเหล็ก

เยนส์ เลห์มันน์ : ผู้มาปืนเพื่อมือหนึ่งอินทรีเหล็ก

เยอรมัน นับเป็นชาติที่ไม่เคยจะขาดผู้รักษาประตูมือดี เอาที่ผู้เขียนเกิดทันดูและจำติดตาได้ดีก็มี อันเดรียส ค็อปเค่ จอมเซฟจุดโทษผู้พา “อินทรีเหล็ก” คว้าแชมป์ยูโร 1996 ที่อังกฤษ เป็นเจ้าภาพ

ขณะที่ โอลิเวอร์ คาห์น ยอดนายทวารที่คว้าแชมป์มากมายกับ บาเยิร์น ก็เข้ามาเสียบแทนแบบไร้รอยต่อ หรือแม้กระทั่ง มานูเอล นอยเออร์ ในยุคปัจจุบัน ที่บางช่วงบางคราวถูกยกให้เป็นจอมหนึบหมายเลข 1 ของโลกเลยด้วยซ้ำ

นอกจากนี้พวกเขายังมี เยนส์ เลห์มันน์ คู่ปรับของ “คิงคาห์น” ที่พิสูจน์ตัวเองด้วยความสำเร็จมากมายชนิดที่ไม่เป็นสองรองใคร

ผู้รักษาประตูเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร เป็นเด็กปั้นของ ชาลเก้ 04 เริ่มต้นค้าแข้งอาชีพในปี 1988 ก่อนที่จะยึดมือหนึ่งยาวนานถึง 10 ฤดูกาล มีผลงานเด่นคือพาทีมขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาในปี 1991 และคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 1997

หลังประสบความสำเร็จอย่างมากกับ “ราชันสีน้ำเงิน” เลห์มันน์ ตัดสินใจย้ายไปเล่นในลีกต่างแดนกับ เอซี มิลาน ยุคที่มีเพื่อนร่วมชาติอย่าง คริสเตียน ซีเก้ และ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ค้าแข้งอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามการตกเป็นมือ 3 ถัดจาก เซบาสเตียโน่ รอสซี่ และ คริสเตียน อับเบียติ ทำให้เจ้าตัวได้เล่นเพียง 5 นัดและอยู่ค้าแข้งกับทีมเพียงครึ่งซีซั่นก่อนย้ายกลับไปบ้านเกิดเพื่อเล่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ช่วงเวลาดังกล่าวน่าจะเป็นจุดที่ตกต่ำที่สุดของ เลห์มันน์ เพราะการเริ่มต้นกับทีม “เสือเหลือง” ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เจ้าตัวฟอร์มย่ำแย่จนมีข่าวลือว่าจะย้ายออก และถูกแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

แต่ด้วยความเป็นนักเตะเลือดนักสู้เหมือนกับบุคลิกในสนามที่ดุดัน ชอบที่จะสั่งการเสียงดังตลอดเวลา เลห์มันน์ พัฒนาผลงานได้ดีขึ้นจนก้าวเป็นตัวหลักของทีม และมีส่วนอย่างมากกับแชมป์บุนเดสลีกา ในปี 2001-02 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่พวกเขาได้รองแชมป์ยูฟ่า คัพ

แม้จะพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาได้ แต่ในนามทีมชาติเยอรมัน เลห์มันน์ ก็เป็นได้เพียงเงาของ โอลิเวอร์ คาห์น ไม่ว่าใครจะเป็นกุนซือทั้ง เอริค ริบเบ็ค หรือ รูดี้ โฟลเลอร์ ต่างก็ให้นายด่านจาก “เสือใต้” มีเครดิตที่มากกว่าเสมอ

เลห์มันน์ อาจจะเป็นผู้รักษาประตูที่เซฟจังหวะ 1 ต่อ 1 ได้ดี ลูกกลางอากาศก็พลาดยาก แต่จุดอ่อนคือชอบออกมาเล่นนอกเขตโทษ รวมถึงมีปัญหาด้านอารมณ์ที่มัก “จิตหลุด” ทำเรื่องบ้าบิ่นจนตัวเองต้องโดนใบแดงบ่อยครั้ง

เขาเลยเอามือกระชากหัว ติโม ลังเก้ ของฮันซ่า ร็อสต็อก เคยไปเตะใส่ ซูมาเลีย คูลิบาลี่ ของไฟร์บวร์ก จนโดนแบน 4 นัด รวมถึงเคยทะเลาะกับ มาร์โช่ อโมโรโซ่ เพื่อนร่วมทีมจนถูกไล่ออกจากสนาม

จุดนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ คาห์น ดูดีกว่าในสายตาบุนเดสเทรนเนอร์ แต่เอาจริงๆ เลห์มันน์ ไม่ได้ยอมรับเท่าไร และเจ้าตัวมองว่าหากเล่นในลีกบ้านเกิด เขาไม่มีวันที่จะแซง คาห์น ได้ เพราะ บาเยิร์น ย่อมมีภาษีดีกว่า ดอร์ทมุนด์ อยู่แล้ว

ซัมเมอร์ปี 2003 เลห์มันน์ ในวัย 34 ปีตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ อาร์เซนอล ที่กำลังมองหาตัวแทนของ เดวิด ซีแมน ภายหลังตัวเลือกที่พยายามดันขึ้นมาทั้ง สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, เรมี่ ชาบาน และ เกรแฮม สแต็ก ไม่มีใครไว้ใจได้เลย

การย้ายทีมครั้งนี้แน่นอนว่าเป็นขี้ปากของบรรดาสื่อมวลชน พวกเขาตั้งคำถามกับอายุอานามของนายทวารชาวเยอรมัน ว่ายังสามารถเล่นในลีกสูงสุดได้หรือไม่ ทว่าปากกาเซียนทั้งหลายก็หักไม่เป็นทาง

เมื่อ เลห์มันน์ พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเขายังเตะปี๊ปดังอยู่ พาทีม “ปืนใหญ่” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แบบไร้พ่าย และเจ้าตัวเป็นนักเตะคนเดียวของสโมสรที่ลงเล่นครบทั้ง 38 นัดในฤดูกาลดังกล่าว

การตัดสินใจย้ายมาหาคุณค่าของตัวเองในลีกต่างแดนหนนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง การพา อาร์เซนอล คว้าแชมป์ลีก ผนวกกับ บาเยิร์น ของ โอลิเวอร์ คาห์น ต้องมือเปล่าในซีซั่นเดียวกัน ทำให้เกิดกระแสหนุน เลห์มันน์ ให้แย่งมือหนึ่งของทีมชาติ

อย่างไรก็ตาม รูดี้ โฟลเลอร์ ก็ยังเลือก คาห์น เป็นมือหนึ่งในยูโร 2004 ซึ่งทำให้ เลห์มันน์ ผิดหวังอย่างมากจนออกมาวิจารณ์เดือดว่า “ผมสมควรได้ลงตัวจริงในยูโร 2004 ถ้าโลกนี้มีความยุติธรรมแม้เพียงนิดเดียว ผมรู้ว่าตัวเองควรได้ลงเล่น”

และจากผลงานย่ำแย่ร่วงตั้งแต่รอบแรกแบบไม่ชนะใครเลย ทำให้ รูดี้ โฟลเลอร์ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง และเป็น เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ที่เข้ามาเสียบงานแทน จุดนี้สำหรับ เลห์มันน์ มันคือการเริ่มต้นใหม่และเป็นการจุดไฟในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง

ตลอด 2 ปีเรื่องราวของ คาห์น กับ เลห์มันน์ กลายเป็นจุดสนใจของแฟนบอล มีการเล่นเกมนอกสนามรวมถึงบุคคลอื่นที่มาร่วมวงไพบูลย์ พูด “ขิงกัน” ไปมาอย่างออกรสออกชาติ แต่ในที่สุดแล้ว คลิ้นส์มันน์ ได้เลือก เลห์มันน์ เป็นมือหนึ่งในฟุตบอลโลก 2006

การตัดสินใจครั้งนี้ของ “ฉลามขาว” ถือว่าถูกต้อง เพราะ เลห์มันน์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น พาทีมจบอันดับ 3 และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว และต่อยอดไปคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยูฟ่า ได้เป็นสมัยที่ 2 หลังเคยได้มาแล้วเมื่อปี 1997

เรื่องราวของ คาห์น กับ เลห์มันน์ จบลงอย่างสวยงาม หลังนายทวาร “เสือใต้” ยอมลดทิฐิไปให้กำลังคู่แข่งของเขาในการดวลจุดโทษกับ อาร์เจนติน่า ในรอบ 8 ทีม กลายเป็นหนึ่งฉากแห่งความทรงจำของฟุตบอลโลกเลยก็ว่าได้

กลับมาที่สโมสร เลห์มันน์ อยู่ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล 5 ฤดูกาล และเกือบพา “ปืนใหญ่” คว้าแชมป์ ยูซีแอล ในปี 2006 ด้วย น่าเสียดายที่เจ้าตัวไปโดนใบแดง ทำให้ทีมต้องเหลือ 10 คนสุดท้ายต้านไม่อยู่แพ้ บาร์เซโลน่า 1-2 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ

หลังจากนั้น เลห์มันน์ ย้ายไปเฝ้าเสากับ สตุ๊ตการ์ต อีก 2 ปีและเลือกแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล 2009-2010 แต่ก็มีคัมแบ็กมาเป็นอะไหล่ให้กับทีม “ปืนใหญ่” ในช่วงเวลาสั้นๆ

ปัจจุบัน เลห์มันน์ เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ เอาก์สบวร์ก ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเห็นเจ้าตัวก้าวขึ้นมาคุมทีมข้างสนามก็เป็นได้ ซึ่งวันนั้นก็น่าติดตามเป็นอย่างมาก เพราะตลอดอาชีพนักเตะของเขา มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคน “บ้าบิ่น” แบบเขาไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” 🏟bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
👉┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛👈
หรือคลิก ✅https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….