ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ : ดาวยิงระดับพระเจ้าของชาว “เดอะ ค็อป”

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ : ดาวยิงระดับพระเจ้าของชาว “เดอะ ค็อป”

ดาวยิงระดับตำนานในความทรงจำของแฟนบอลลิเวอร์พูลคงมีอยู่เต็มหัวไปหมด แต่คนแรก ๆ ที่พวกเขานึกถึงต้องมีชื่อของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ นักเตะที่ เดอะ ค็อป ยกให้เป็นพระเจ้าสำหรับพวกเขา

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ มีชื่อเต็มๆว่า โรเบิร์ต เบอร์นาร์ด ฟาวเลอร์ เป็นชาวลิเวอร์พูลโดยกำเนิด เขาเกิดในย่านท็อกซ์เทธซึ่งเป็นย่านเป็นชุมชนแออัดที่ไม่ค่อยจะน่าอยู่มากนัก โดยมีเอฟเวอร์ตัน เป็นทีมรัก และการที่เขา เอียน รัช เข้าไส้ คือสิ่งที่ยืนยันความเป็นเอฟเวอร์โตเนี่ยนในตัวเขาได้ดี

ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นกับทีมโรงเรียน ขณะมีอายุได้ 14 ปี ทำให้ ฟาวเลอร์ ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในอังกฤษ ทั้ง เอฟเวอร์ตัน ทีมในดวงใจ รวมถึงอริร่วมเมืองอย่าง ลิเวอร์พูล ด้วย แต่เมื่อ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ไม่มีท่าจะคว้าตัวไปร่วมทีม เขาก็เลือกย้ายไป หงส์แดง ที่แสดงความต้องการคว้าตัวเขาไปร่วมทีมมากกว่าปี 1991 ก่อนจะเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกในปี 1992

เขาได้ลงประเดิมสนามให้กับลิเวอร์พูลนัดที่พบกับฟูแล่ม ในเกมลีกคัพ ฤดูกาล 1993-1994 และเขาก็สร้างความประทับใจให้ เดอะ ค็อปทันที ด้วยการยิงประตูที่ 3 ให้กับทีม โดยในฤดูกาลนั้น เขาลงเล่นทั้งหมด 34 นัด ยิงไป 18 ประตู ทำ 2 แฮตทริก และได้รับการฝึกฝนหลังขึ้นชุดใหญ่จาก เอียน รัช นักเตะที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเกลียดเข้าไส้ ซึ่งในตอนนั้น รัชชี่ เข้าสู่บั้นปลายของอาชีพค้าแข้งแล้ว

การฝึกฝนของ รัช ได้ผลอย่างมาก เมื่อฤดูกาลถัดมา ฟาวเลอร์ จัดการกดประตูไป 31 ประตูรวมทุกรายการให้ลิเวอร์พูล ซึ่ง 3 ใน 31 ลูกนั้นเป็นแฮตทริกใน 4 นาทีที่ยิงใส่อาเซน่อล ซึ่งเป็น สถิติแฮตทริกที่เร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีก ณ เวลานั้น และ ฤดูกาล 1994-1995 เขากลับดีกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อทำประตูไปถึง 36 ลูก เป็น 3 แฮตทริก 3 เกมติดกันที่แอนฟิลด์ใส่โบลตัน แมนเชสเตอร์ซิตี้ และอาเซน่อล นั่นทำให้ร็อบบี้กลายเป็น พระเจ้า ของเดอะ ค็อปในทันที

ในปี 1997 ลิเวอร์พูลซื้อสแตน คอลลีมอร์จากน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ เพื่อให้มาเป็นคู่ขาในแดนหน้าคนใหม่ของฟาวเลอร์ และทั้งคู่ก็สร้างผลงานได้ดี และจุดเริ่มต้นของกลุ่ม ‘สไปซ์ บอย’ ในยุคนั้น ซึ่งประกอบด้วยนักเตะ 5 คน คือ ฟาวเลอร์, เดวิด เจมส์, เจมี เรดแนปป์, สตีฟ แม็คมานามาน และ คอลลีมอร์

อย่างไรก็ตาม ฟาวเลอร์เริ่มฟอร์มตกเพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรังในปี 1998 และการก้าวขึ้นมาของไมเคิ่ล โอเว่นในช่วงปี 1997 ก็ทำให้โอกาสของฟาวเลอร์ในถิ่นแอนฟิลด์ค่อย ๆ น้อยลงไป

ฤดูกาล 2000-01 ฟาวเลอร์ทำประตูได้ 17 ประตูจากการลงเล่น 48 เกม โดยในฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลคว้าทริปเบิล แชมป์บอลถ้วยคือ ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า คัพมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และจากการบาดเจ็บหนักของ เจมี่ เรดแนปป์ กัปตันทีมตัวจริง ทำให้ฟาวเลอร์ได้รับบทบาทในการเป็นกัปตันทีมของลิเวอร์พูล

แต่การเข้ามาคุมทีมของ เชราร์ อุลลิเยร์ ทำให้โอกาสของฟาวเลอร์ในการลงสนามน้อยเกินไป เนื่องจากผู้จัดการชาวฝรั่งเศส เลือกที่จะใช้ ไมเคิ่ล โอเว่น และ เอมิล เฮสกีย์ ร่วมกันในแดนหน้ามากกว่า ทำให้ปลอกแขนกัปตันทีมตกไปอยู่ที่ ซามี ฮูเปีย เป็นส่วนใหญ่

สถานการณ์ในทีมลิเวอร์พูลของ ฟาวเลอร์ เริ่มไม่มั่นคงนักกับตำแหน่งตัวจริง และการถูกบีบให้ต้องย้ายทีมของเชราร์ อุลลิเยร์ทำให้หนังสือพิมพ์ ลิเวอร์พูล เอคโค่ ลงข่าวว่า พระเจ้าของ เดอะ ค็อป อาจจะต้องย้ายออกจากทีม และก็เป็นเช่นนั้นจริง หลังผ่านไปได้เพียง 1 เดือน ฟาวเลอร์ จำใจจาก หงส์แดง มาซบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์

แต่ช่วงเวลากับ ‘นกยูงทอง’ ก็ไม่น่าพิศมัยเท่าไหร่ เมื่อ ฟาวเลอร์ ต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บบ่อย ๆ ซ้ำร้าย ลีดส์ ก็ทีมแตกจากภาวะการเงินล้มเหลวในฤดูกาล 2002-03 ก่อนจะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี เควิน คีแกน เป็นผู้จัดการทีม ในเดือนมกราคมปี 2003

แม้ผลงานในทีม ‘เรือใบสีฟ้า’จะไม่ได้โดดเด่นยิงประตูมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ความรักที่ ฟาวเลอร์ มีให้กับ ลิเวอร์พูล ยังอยู่เต็มเปี่ยม เมื่อ ชูมือ 5 นิ้วฉลองการยิงประตูใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ ราฟาเอล เบนิเตซ พาหงส์แดงคว้าแชมป์ยุโรป 5 สมัย ในฤดูกาล 2003-04

อย่างไรก็ตาม เอล ราฟา ก็เป็นพา ‘เดอะ ก็อด’ หวนกลับคืนแอนฟิลด์ อีกครั้ง หลังหมดสัญญากับ ซิตี้ ในต้นปี 2006 และได้ลงเล่นไป 16 เกม ยิงได้ 5 ประตูจนทีมขยายสัญญาให้เขาเพิ่มอีก 1 ปี จากเดิมที่เซ็นกันแค่จบฤดูกาล 2005-06

แม้จะได้ลงเล่นมากกว่าเดิมในฤดูกาล 2006-07 โดยลงเล่นไป 23 นัด กดไป 7 ประตู แต่ด้วยวัย 32 ปี กับฟอร์มการเล่นที่ยังไม่ดีสำหรับ เบนิเตซ ทำให้ ฟาวเลอร์ ถูกปล่อยออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนั้น และย้ายไป คาร์ดิฟฟ์ แบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์ปี 2007 และ แบล็คเบิร์น ในปี 2008

ช่วงบั้นปลายอาชีพ ฟาวเลอร์ ตัดสินใจย้ายไปผจญภัยใน เอลีก หรือลีกลูกหนังสูงสุดในออสเตรเลีย กับ นอร์ทควีนส์แลนด์ ฟูรี่ ในปี 2009 และ เพิร์ธ กลอรี่ ในปี 2010 จากนั้นจึงย้ายมาปิดฉากอาชีพอย่างเป็นทางการกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรดังในไทย ปี 2011

ด้วยการที่ ฟาวเลอร์ เติบโตมาในย่านที่ชื่อเสียงแย่ ๆ ทำให้เขามีข่าวผัวพันกับยาเสพติดพอสมควรในช่วงที่กำลังแจ้งเกิด อีกทั้งยังโดนสื่อแดนผู้ดีบ้านเกิดเล่นข่าวอย่างหนักจนเกือบเอาตัวไม่รอด

แต่ผลงานที่ ฟาวเลอร์ ฝากไว้กับ ลิเวอร์พูล โดยลงสนามไปทั้งหมด 369 นัด ยิงได้ 183 ประตู คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพได้ 1 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ และ ยูฟ่า ซุเปอร์คัพ อย่างละ 1 สมัย ยังทำให้เขาเป็นที่รักของสาวก ‘หงส์แดง’ เสมอ

และมั่นใจได้เกินร้อยว่า ฟาวเลอร์ จะยังคงเป็น “พระเจ้าของเดอะค็อป” ไปตลอดกาล

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” 🏟bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
👉┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛👈
หรือคลิก ✅https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….