แม้ปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะห่างหายจากแชมป์ลีกสูงสุดมานานหลายปี แต่ไม่มีใครปฎิเสธว่าทีมที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุด ได้ผลิตสุดยอดนักเตะมาประดับวงการลูกหนังเมืองผู้ดีมาอย่างมากมาย

มาร์ค ฮิวจ์ส คือหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยดาวเตะจาก “มังกรแดง” เกิดในปี 1963 เข้ามาอยู่ในอะคาเดมี่ของ “ผีแดง” ตั้งแต่อายุ 14 ปี ก่อนขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ในปี 1983 และอยู่ค้าแข้งกับสโมสร 3 ฤดูกาล

ไม่มีใครคาดคิดว่ามิดฟิลด์หนุ่มจากเร็กซ์แฮม จะกลายเป็นหนึ่งในจอมถล่มประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร ฮิวจ์ส มาฉายแววในฤดูกาล 1984-85 หลังยิงประตูแบบเป็นกอบเป็นกำช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และตัวเองได้รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี

ซีซั่นต่อมาเจ้าตัวยังผลงานดีอย่างต่อเนื่องหลังยิงไป 17 ประตู นับเป็นสถิติดีที่สุดต่อฤดูกาลตลอดอาชีพของตัวเอง ซึ่งจากผลงานที่ยอดเยี่ยมทำให้ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ที่ตอนนั้นคุม บาร์เซโลน่า ตัดสินใจทุ่ม 2 ล้านปอนด์ดึงไปร่วมทีมพร้อมกับ แกรี่ ลินิเกอร์ ดาวยิงตัวเก่งทีมชาติอังกฤษ

อย่างไรก็ตามชีวิตต่างแดนกลับไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เนื่องจากมีผลงานที่ไม่น่าประทับใจ ก่อนถูกส่งไปให้ บาเยิร์น ยืมตัวในปีต่อมา สุดท้ายเมื่อไปไม่รุ่ง ฮิว์จส์ ตัดสินใจย้ายกลับมาสู่ถิ่นเก่าโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยหนนี้มี เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมบังเหียน

มีใครบางคนเคยกล่าวไว้หากคุณตัดสินใจย้ายอกอจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่มักจะมีเส้นทางอาชีพที่ถดถอยลง แต่ ฮิวจ์ส ไม่ได้อยู่ในข่ายดังกล่าว แถมอยู่ในทิศทางตรงข้ามด้วยเมื่อเจ้าตัวประสบความสำเร็จยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ

การค้าแข้งกับ “ผีแดง” คำรบ 2 ดาวยิงทีมชาติเวลส์ พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัย ฟุตบอลถ้วยในประเทศอีก 3 รายการ ที่สำคัญเจ้าตัวเป็นฮีโร่ยิง 2 ประตูพาทีมชนะต้นสังกัดเก่า บาร์เซโลน่า 2-1 คว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ ด้วยในปี 1991

ในแง่ผลงานส่วนตัว ฮิวจ์ส เล่นได้อย่างโดดเด่นจนได้รับเลือกให้คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ถึง 2 ฤดูกาล (1988-89 และ 1990-91)

เจ้าของฉายา “สปาร์กี้” เป็นกองหน้าที่ทำประตูได้แทบจะทุกรูปแบบ และเป็นนักเตะที่มักจะเล่นได้ดีในเกมใหญ่ ซึ่ง เซอร์อเล็กซ์ เคยกล่าวชนเจ้าตัวไว้ว่า “ฮิวจ์ส เป็นนักเตะที่เล่นเกมใหญ่ได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักมาเลย”

เดือนมกราคม 1995 ฮิว์จส์ ได้ย้ายทีมอีกครั้งหลังโยกไปเล่นให้กับ เชลซี ทีมโปรดในวัยเด็กของตัวเอง แม้ช่วงนั้นเจ้าตัวจะอายุ 32 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงเป็นขิงแก่ที่จัดจ้านและไว้ลายด้วยการคว้าแชมป์อีก 2 รายการจาก เอฟเอ คัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ

เส้นทางค้าแข้งของเขาไม่จบลงง่ายๆ ช่วงบันปลายของอาชีพยังได้ย้ายไปเล่นกับอีก 3 สโมสรก็คือ เซาธ์แฮมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก่อนตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดด้วยวัย 38 ปีและมีแชมป์ลีก คัพ เป็นรางวัลสั่งลา

หลังรีไทร์อาชีพนักเตะ ฮิวจ์ส เดินหน้าหาความท้าทายใหม่ทันที หลังผลันตัวมาเป็นผู้จัดการทีม โดยเริ่มต้นคุมทีมชาติเวลส์ และเกือบพาทีม “มังกรแดง” ไปเล่นรอบสุดท้ายในยูโร 2004 ได้ด้วย หลังจากนั้นเจ้าตัวก็มาลุยงานระดับสโมสรผ่านการคุมทีมหลายสโมสร ซึ่งหนึ่งนั้นก็มีทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ซิตี้ ถึงแม้ว่าจะไปไม่รอดคุมได้ซีซั่นเดียวก็ตาม

ตลอดเส้นทางค้าแข้งอันยาวนานเกือบ 20 ปี ฮิวจ์ส พิสูจน์ตัวเองจากผลงานที่จับต้องได้ และคงไม่มีใครปฎิเสธว่าเขาคือหนึ่งในแข้งระดับตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ พรีเมียร์ลีก อย่่างแน่นอน

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post มาร์ค ฮิวจ์ส : อีกหนึ่งยอดดาวยิงจากมังกรแดง appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

ในช่วงปลายยุค 90 แฟนบอลที่ติดตามชมพรีเมียร์ลีก มาโดยตลอดคงจะคุ้นหูกับนักเตะที่ชื่อว่า ‘นิโกล่าส์ อเนลก้า’ อย่างแน่นอน ในฐานะดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างมากในเวลานั้น

มากไปกว่านั้น เขายังถูกบ่มฝีเท้าโดยหนึ่งในกุนซือยอดฝีมือของวงการฟุตบอลอย่าง อาร์เซน เวนเกอร์ ในอาร์เซน่อล รวมถึงเคยค้าแข้งกับสโมสรในลีกผู้ดีถึง 6 ทีมด้วย แม้ประสบความสำเร็จ แต่ก็ขึ้นว่าเป็นนักเตะที่มีทัศนคติไม่ดี รับมือได้ยากเช่นกัน

อเนลก้า เกิดในปี 1979 เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมในท้องถิ่น เช่นนักเตะคนอื่น ๆ ทั่วไป แต่ฟอร์มที่โดดเด่นเกินวัย ทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าคัวไปร่วมทีมด้วยวัย 16 ปี ก่อนดันขึ้นชุดใหญ่ในปี 1997

ทว่าอยู่ได้ไม่นาน อาร์เซน เวนเกอร์ ก็คว้า หอกชาวฝรั่งเศสบ้านเดียวกัน มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 500,000 ปอนด์ ในเดือนมกราคมปี 1997 แต่ได้ลงเล่นในลีกให้กับทีมไปเพียง 4 เกมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การบาดเจ็บของ ไรท์ ก็เปิดโอกาสให้ อเนลก้า ได้ปล่อยของจนเป็นตัวหลักพา ‘ปืนใหญ่’ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครอง แถมด้วย เอฟเอ คัพ อีก 1 ถ้วยในฤดูกาล 1997-1998 พ่วงตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสร 19 ประตูทุกรายการ

เส้นทางการค้าแข้งของเขากำลังจะไปได้สวยแต่ด้วยปัญหาส่วนตัวของเขาทำให้ อาร์เซนjอล ตัดสินใจขายให้กับ เรอัล มาดริดในปี 1999 แต่ด้วยทัศคติแย่ที่แก้ไม่หาย ทำให้ หอกเลือดน้ำหอม ไม่เปรี้ยงปร้างเช่นตอนเล่นในอังกฤษ

อเนลก้า ตัดสินใจย้ายกลับมาเล่น เปแอสเช อีกครั้ง หลังดับสนิทตลอด 1 ปีในเบอร์นาเบว แต่ฟอร์มก็ดีขึ้นไม่มากนัก จึงถูกปล่อยให้ ลิเวอร์พูล แบบยืมไปใช้งานในช่วงตลาดหน้าหนาวฤดูกาล 2001-02 และทำผลงานได้พอใช้กับ 4 ประตูจาก 20 นัดในลีก

แต่ เชราร์ อุลลิเย่ร์ กุนซือ ‘หงส์แดง’ ณ ตอนนั้น ไม่ตัดสินใจซื้อขาด ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าตัวไปร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2002 ด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์ ซึ่งทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอด 2 ปีกว่าในถิ่น เมน โร้ด ก่อนที่จะปล่อยให้ เฟเนร์บาห์เช่ คว้าไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2005

อเนลก้า ผจญภัยในแดนไก่งวงแค่ปีกว่า ก็ย้ายกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ โบลตัน วันเดอร์เรอรส์ ในปี 2006 พร้อมกลายเป็นกองหน้าตัวความหวังของ เดอะ ทร็อตเตอร์ส จนมีข่าวว่า ปืนใหญ่ ทีมเก่าให้ความสนใจเขา แต่สุดท้ายก็เงียบหายไปตามกาลเวลา

ฟอร์มของดาวยิงชาวฝรั่งเศส ยังทำได้ดีตามมาตรฐาน ทำให้ เชลซี กระชากเขาไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2008 ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ และสโมสรในอังกฤษที่ อเนลก้า ประสบความสำเร็จมากที่สุด รวมถึงเป็นสโมสรที่เขาอยู่ค้าแข้งนานที่สุดด้วย

ตลอด 4 ปีกว่า ๆ ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ อเนลก้า มีส่วนช่วยให้ สิงห์บลู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และ แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย ก่อนลาทีมไปโกยเงินหยวนกับ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นฮัว ในปี 2012

นับตั้งแต่นั้นฟอร์มถล่มประตูของ อดีตดาวรุ่งเปแอสเช ก็ตกลงไปชัดเจน ประกอบกับนี่เป็นช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้งของเขาด้วย โดยไปเล่นกับ ยูเวนตุส แบบยืมตัวในฤดูกาล 2012-13, กลับมาอังกฤษ อีกครั้งกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในปี 2013 ซึ่งถูกยกเลิกสัญญาเนื่องจากฉลองประตูที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติยิว ก่อนแขวนสตั๊ดกับ มุมไบ ซิตี้ ในอินเดีย ปี 2015

ปัจจุบัน อเนลก้า เข้าสู่เส้นทางเบื้องหลังบริหารฟุตบอลอย่างเต็มตัวกับในฐานะผู้อำนวยการฟุตบอล อีแยร์ เอฟซี สโมสรระดับล่างของฝรั่งเศส เมื่อต้นปี 2021 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เคยคุมทีมเยาวชนของ ลีลล์ ระหว่างปี 2018-2020

แม้ว่าเส้นทางการค้าแข้งของเขาจะไม่สามารถอยู่กับทีมไหนได้นาน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อเนลก้า คือกองหน้าที่มีความอันตรายอยู่ยามอยู่กรอบเขตโทษ และพร้อมเปลี่ยนเป็นประตูได้ตลอดเวลาในช่วงที่เขาพีก ๆ กับ อาร์เซน่อล หรือ เชลซี

แต่ด้วยนิสัยของเขาที่เป็นมาตั้งแต่ดาวรุ่ง ซึ่งที่ทะนงตัวเองเกินไป เลยทำให้เขาไม่ทุ่มเทการเล่นให้กับต้นสังกัดมากเท่าไหร่นัก ประกอบทัศนคติที่มีปัญหาหลาย ๆ ครั้ง ทำให้เขาอยู่สโมสรไหนได้ไม่นานเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่ฝีเท้ากับลีลาการจบสกอร์ถือว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยมแท้ ๆ

ไม่เช่นนั้น เราอาจเห็น อเนลก้า เป็นตำนานของ ปืนใหญ่ ร่วมกับ เธียร์รี่ อองรี หรือ ปาทริค วิเอร่า ไปแล้วก็เป็นได้

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post นิโกล่าส์ อเนลก้า : ดาวเตะใจเกเรจอมพเนจร appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

เยอรมัน นับเป็นชาติที่ไม่เคยจะขาดผู้รักษาประตูมือดี เอาที่ผู้เขียนเกิดทันดูและจำติดตาได้ดีก็มี อันเดรียส ค็อปเค่ จอมเซฟจุดโทษผู้พา “อินทรีเหล็ก” คว้าแชมป์ยูโร 1996 ที่อังกฤษ เป็นเจ้าภาพ

ขณะที่ โอลิเวอร์ คาห์น ยอดนายทวารที่คว้าแชมป์มากมายกับ บาเยิร์น ก็เข้ามาเสียบแทนแบบไร้รอยต่อ หรือแม้กระทั่ง มานูเอล นอยเออร์ ในยุคปัจจุบัน ที่บางช่วงบางคราวถูกยกให้เป็นจอมหนึบหมายเลข 1 ของโลกเลยด้วยซ้ำ

นอกจากนี้พวกเขายังมี เยนส์ เลห์มันน์ คู่ปรับของ “คิงคาห์น” ที่พิสูจน์ตัวเองด้วยความสำเร็จมากมายชนิดที่ไม่เป็นสองรองใคร

ผู้รักษาประตูเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร เป็นเด็กปั้นของ ชาลเก้ 04 เริ่มต้นค้าแข้งอาชีพในปี 1988 ก่อนที่จะยึดมือหนึ่งยาวนานถึง 10 ฤดูกาล มีผลงานเด่นคือพาทีมขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาในปี 1991 และคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 1997

หลังประสบความสำเร็จอย่างมากกับ “ราชันสีน้ำเงิน” เลห์มันน์ ตัดสินใจย้ายไปเล่นในลีกต่างแดนกับ เอซี มิลาน ยุคที่มีเพื่อนร่วมชาติอย่าง คริสเตียน ซีเก้ และ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ค้าแข้งอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามการตกเป็นมือ 3 ถัดจาก เซบาสเตียโน่ รอสซี่ และ คริสเตียน อับเบียติ ทำให้เจ้าตัวได้เล่นเพียง 5 นัดและอยู่ค้าแข้งกับทีมเพียงครึ่งซีซั่นก่อนย้ายกลับไปบ้านเกิดเพื่อเล่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ช่วงเวลาดังกล่าวน่าจะเป็นจุดที่ตกต่ำที่สุดของ เลห์มันน์ เพราะการเริ่มต้นกับทีม “เสือเหลือง” ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เจ้าตัวฟอร์มย่ำแย่จนมีข่าวลือว่าจะย้ายออก และถูกแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

แต่ด้วยความเป็นนักเตะเลือดนักสู้เหมือนกับบุคลิกในสนามที่ดุดัน ชอบที่จะสั่งการเสียงดังตลอดเวลา เลห์มันน์ พัฒนาผลงานได้ดีขึ้นจนก้าวเป็นตัวหลักของทีม และมีส่วนอย่างมากกับแชมป์บุนเดสลีกา ในปี 2001-02 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่พวกเขาได้รองแชมป์ยูฟ่า คัพ

แม้จะพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาได้ แต่ในนามทีมชาติเยอรมัน เลห์มันน์ ก็เป็นได้เพียงเงาของ โอลิเวอร์ คาห์น ไม่ว่าใครจะเป็นกุนซือทั้ง เอริค ริบเบ็ค หรือ รูดี้ โฟลเลอร์ ต่างก็ให้นายด่านจาก “เสือใต้” มีเครดิตที่มากกว่าเสมอ

เลห์มันน์ อาจจะเป็นผู้รักษาประตูที่เซฟจังหวะ 1 ต่อ 1 ได้ดี ลูกกลางอากาศก็พลาดยาก แต่จุดอ่อนคือชอบออกมาเล่นนอกเขตโทษ รวมถึงมีปัญหาด้านอารมณ์ที่มัก “จิตหลุด” ทำเรื่องบ้าบิ่นจนตัวเองต้องโดนใบแดงบ่อยครั้ง

เขาเลยเอามือกระชากหัว ติโม ลังเก้ ของฮันซ่า ร็อสต็อก เคยไปเตะใส่ ซูมาเลีย คูลิบาลี่ ของไฟร์บวร์ก จนโดนแบน 4 นัด รวมถึงเคยทะเลาะกับ มาร์โช่ อโมโรโซ่ เพื่อนร่วมทีมจนถูกไล่ออกจากสนาม

จุดนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ คาห์น ดูดีกว่าในสายตาบุนเดสเทรนเนอร์ แต่เอาจริงๆ เลห์มันน์ ไม่ได้ยอมรับเท่าไร และเจ้าตัวมองว่าหากเล่นในลีกบ้านเกิด เขาไม่มีวันที่จะแซง คาห์น ได้ เพราะ บาเยิร์น ย่อมมีภาษีดีกว่า ดอร์ทมุนด์ อยู่แล้ว

ซัมเมอร์ปี 2003 เลห์มันน์ ในวัย 34 ปีตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ อาร์เซนอล ที่กำลังมองหาตัวแทนของ เดวิด ซีแมน ภายหลังตัวเลือกที่พยายามดันขึ้นมาทั้ง สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, เรมี่ ชาบาน และ เกรแฮม สแต็ก ไม่มีใครไว้ใจได้เลย

การย้ายทีมครั้งนี้แน่นอนว่าเป็นขี้ปากของบรรดาสื่อมวลชน พวกเขาตั้งคำถามกับอายุอานามของนายทวารชาวเยอรมัน ว่ายังสามารถเล่นในลีกสูงสุดได้หรือไม่ ทว่าปากกาเซียนทั้งหลายก็หักไม่เป็นทาง

เมื่อ เลห์มันน์ พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเขายังเตะปี๊ปดังอยู่ พาทีม “ปืนใหญ่” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แบบไร้พ่าย และเจ้าตัวเป็นนักเตะคนเดียวของสโมสรที่ลงเล่นครบทั้ง 38 นัดในฤดูกาลดังกล่าว

การตัดสินใจย้ายมาหาคุณค่าของตัวเองในลีกต่างแดนหนนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง การพา อาร์เซนอล คว้าแชมป์ลีก ผนวกกับ บาเยิร์น ของ โอลิเวอร์ คาห์น ต้องมือเปล่าในซีซั่นเดียวกัน ทำให้เกิดกระแสหนุน เลห์มันน์ ให้แย่งมือหนึ่งของทีมชาติ

อย่างไรก็ตาม รูดี้ โฟลเลอร์ ก็ยังเลือก คาห์น เป็นมือหนึ่งในยูโร 2004 ซึ่งทำให้ เลห์มันน์ ผิดหวังอย่างมากจนออกมาวิจารณ์เดือดว่า “ผมสมควรได้ลงตัวจริงในยูโร 2004 ถ้าโลกนี้มีความยุติธรรมแม้เพียงนิดเดียว ผมรู้ว่าตัวเองควรได้ลงเล่น”

และจากผลงานย่ำแย่ร่วงตั้งแต่รอบแรกแบบไม่ชนะใครเลย ทำให้ รูดี้ โฟลเลอร์ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง และเป็น เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ที่เข้ามาเสียบงานแทน จุดนี้สำหรับ เลห์มันน์ มันคือการเริ่มต้นใหม่และเป็นการจุดไฟในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง

ตลอด 2 ปีเรื่องราวของ คาห์น กับ เลห์มันน์ กลายเป็นจุดสนใจของแฟนบอล มีการเล่นเกมนอกสนามรวมถึงบุคคลอื่นที่มาร่วมวงไพบูลย์ พูด “ขิงกัน” ไปมาอย่างออกรสออกชาติ แต่ในที่สุดแล้ว คลิ้นส์มันน์ ได้เลือก เลห์มันน์ เป็นมือหนึ่งในฟุตบอลโลก 2006

การตัดสินใจครั้งนี้ของ “ฉลามขาว” ถือว่าถูกต้อง เพราะ เลห์มันน์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น พาทีมจบอันดับ 3 และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว และต่อยอดไปคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยูฟ่า ได้เป็นสมัยที่ 2 หลังเคยได้มาแล้วเมื่อปี 1997

เรื่องราวของ คาห์น กับ เลห์มันน์ จบลงอย่างสวยงาม หลังนายทวาร “เสือใต้” ยอมลดทิฐิไปให้กำลังคู่แข่งของเขาในการดวลจุดโทษกับ อาร์เจนติน่า ในรอบ 8 ทีม กลายเป็นหนึ่งฉากแห่งความทรงจำของฟุตบอลโลกเลยก็ว่าได้

กลับมาที่สโมสร เลห์มันน์ อยู่ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล 5 ฤดูกาล และเกือบพา “ปืนใหญ่” คว้าแชมป์ ยูซีแอล ในปี 2006 ด้วย น่าเสียดายที่เจ้าตัวไปโดนใบแดง ทำให้ทีมต้องเหลือ 10 คนสุดท้ายต้านไม่อยู่แพ้ บาร์เซโลน่า 1-2 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ

หลังจากนั้น เลห์มันน์ ย้ายไปเฝ้าเสากับ สตุ๊ตการ์ต อีก 2 ปีและเลือกแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล 2009-2010 แต่ก็มีคัมแบ็กมาเป็นอะไหล่ให้กับทีม “ปืนใหญ่” ในช่วงเวลาสั้นๆ

ปัจจุบัน เลห์มันน์ เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ เอาก์สบวร์ก ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเห็นเจ้าตัวก้าวขึ้นมาคุมทีมข้างสนามก็เป็นได้ ซึ่งวันนั้นก็น่าติดตามเป็นอย่างมาก เพราะตลอดอาชีพนักเตะของเขา มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคน “บ้าบิ่น” แบบเขาไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post เยนส์ เลห์มันน์ : ผู้มาปืนเพื่อมือหนึ่งอินทรีเหล็ก appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

หลังปลด โชเซ่ มูรินโญ่ พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็แต่งตั้งให้ ไรอัน เมสัน ขึ้นมาทำหน้าที่กุนซือชั่วคราวอย่างน้อยจนจบฤดูกาลนี้

เขาคนนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลของสโมสร เนื่องจากเคยเป็นอดีตกองกลางลูกหม้อที่เติบโตกับทีมมาตั้งแต่ชุดเยาวชน น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บบริเวณศรีษะทำให้เขาต้องแขวนสตั๊ดก่อนวันอันควร แต่นั่นก็ทำให้เขาเริ่มต้นสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในพรีเมียร์ลีกหลังอาชีพค้าแข้ง

ไรอัน เกล็น เมสัน เกิดวันที่ 13 มิถุนายน ปี 1991 ณ เอ็นฟิลด์ เมืองทางตอนเหนือทางลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังกับ สเปอร์ส โดยเข้าไปอยู่ในทีมชุดเยาวชนตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ในปี 1999

กระทั่งมีโอกาสได้ขึ้นชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2008 ด้วยวัย 17 ปี เท่านั้น แต่เจ้าตัวก็ต้องใช้เวลาอีก 3 ปี กว่าโอกาสลงสนามครั้งแรกอย่างเป็นทางการจะมาถึงในเกม ลีก คัพ เมื่อปี 2012 โดยช่วงเวลาที่ผ่านมา ณ เวลานั้น เขาถูก ปล่อยตัวให้ทีมในระดับ แชมเปี้ยนชิพ และ ลีก วัน ยืมใช้งานเพื่อโอกาสในการลงเล่นและพัฒนาฝีเท้าตัวเอง

ถึงเริ่มต้นได้ดีกับ เยโอวิล ทาวน์ ในฤดูกาล 2009-10 แต่หลังจากนั้นก็ดูไม่มีแววแจ้งเกิดเท่าไหร่ เนื่องจากโอกาสลงสนามกับทีมเหล่านั้นน้อยมาก กับ ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส, มิลวอลล์ หรือแม้กระทั่ง ลอริยงต์ สโมสรในฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม เมสัน กลับมาทำผลงานได้โดดเด่นอีกครั้งในช่วงย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ สวินดอน ทาวน์ ในฤดูกาล 2013-14 ซึ่งลงสนามไปทั้งหมด 22 นัด กดไป 5 ประตู

นั่นเป็นเหตุให้ ‘ไก่เดือยทอง’ ตัดสินใจเก็บ เมสัน ไว้ใช้งานภายใต้การมาของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโร่ ผู้จัดการทีมคนใหม่ ในซัมเมอร์ปี 2014

ในที่สุดเขาก็พิสูจน์ตัวเองกับต้นสังกัดได้สำเร็จ เมื่อสามารถขึ้นมาเป็นผู้เล่นในทีมชุดหลักของ สเปอร์ส ได้อย่างเต็มตัว ซึ่งลงเล่นไปทั้งหมด 37 นัดในฤดูกาล 2014-15 และก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ 1 นัด ในยุคของ รอย ฮอดจ์สัน

ในฤดูกาลต่อมา เมสัน ก็ยังเป็นกองกลางที่ พอช เลือกใช้งานเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อได้ลงเล่นไป 29 นัดในทุกรายการ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ตัวหลักที่การันตีตำแหน่งตัวหลัก เนื่องจากได้ออกสตาร์ทตัวจริงในลีกเพียง 8 นัดเท่านั้น ซึ่งทำให้เขาผิดหวังไม่ใช่น้อย

แต่อย่างน้อย ฟอร์มการเล่นของ กองกลางชาวอังกฤษ ก็ไปเข้าตา ฮัลล์ ซิตี้ ทีมคู่แข่งซึ่งเวลานั้นยังโลดแล่นอยู่บน พรีเมียร์ลีก ที่ทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรกว่า 13 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขาไปร่วมทีมก่อนฤดูกาล 2016-17

แน่นอนว่า เมสัน กลายเป็นตัวหลักในแดนกลางของ ‘เดอะ ไทเกอร์ส’ มาโดยตลอดนับตั้งแต่เกมแรก และถูกคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งแข้งความหวังที่จะพาทีมอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดแดนผู้ดี

ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลกในเวลาต่อมา วันที่ 22 มกราคม ปี 2017 ในเกมลีกที่ ฮัลล์ พบกับ เชลซี เมื่อ เมสัน กระโดดโหม่งแย่งบอลกับ แกรี่ เคฮิลล์ จนได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองจากการปะทะ สร้างความเสียหายให้กับกะโหลกและสมองของเขาเป็นอย่างมาก

อาการบาดเจ็บครั้งนั้นทำให้ เมสัน ต้องเข้ารับการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ และต้องพักรักษาตัวตลอดทั้งปี ซึ่งในการผ่าตัดเขามีแผ่นเหล็กถึง 14 ชิ้นในกระโหลกศีรษะ โดยมีน็อตอีก 28 ตัวที่ยึดแผ่นเหล็กนี้เอาไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังต้องเย็บอีก 45 เข็ม และหลงเหลือรอยแผลเป็นรอบศีรษะที่มีความยาวถึง 6 นิ้ว

หลังพักฟื้นนานกว่า 13 เดือน สุดท้าย เมสัน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องจำใจแขวนสตั๊ดบอกลาอาชีพค้าแข้งอย่างกะทันหันด้วยวัยเพียง 26 ปีเท่านั้น โดยประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018

แม้ไม่อาจวิ่งไล่หวดลูกบอลบนฟลอร์หญ้าได้ดั่งเดิม แต่ เมสัน ก็ยังเลือกทำงานในวงการลูกหนังที่ตนเองรักในเส้นทางโค้ช โดยได้โอกาสเป็นสตาฟฟ์โค้ชของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน อดีตเจ้านายเก่า และได้รับหน้าที่ดูแลการพัฒนานักฟุตบอลดาวรุ่งของสโมสรตั้งแต่รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปีจนถึง 23 ปี

กระทั่งงานใหญ่ที่สุดในชีวิตจะมาถึงเขาในวันนี้ เมื่อได้จับงานโค้ชใหญ่ครั้งแรกในวัย 29 ปี ลงเล่นพรีเมียร์ลีก และกลายเป็นผู้จัดการทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หลังคุมทีมนัดแรกด้วยการเอาชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 ในเดือนเมษายน

อีกทั้ง สุดสัปดาห์นี้ เมสันมีโอกาสลุ้นแชมป์รายการแรกทันทีกับนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งหากทำได้สำเร็จ ยิด อาร์มี่ ทั้งหลายคงเชียร์ให้เขาได้รับสัญญาถาวรแน่นอน

แต่ถ้าหากไม่สำเร็จดั่งหวัง และต้องยุติบทบาทนายใหญ่ ‘ไก่เดือยทอง’ หลังจบฤดูกาลนี้ เส้นทางในบทบาทกุนซือของ เมสัน ก็ยังไม่ถึงจุดจบแต่อย่างใด ด้วยวัยเพียง 29 ปี ทำให้เขามีเวลามากมายในการสั่งสมประสบการณ์นี้

และวันใดที่ เมสัน มีพร้อมทั้งประสบการณ์และบารมีในเส้นทางนี้ ไม่แน่วันหนึ่ง เราอาจเห็นเขากลับมาเป็นกุนซือของ สเปอร์ส คำรบที่ 2 ก็เป็นได้

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post ไรอัน เมสัน : ลูกหม้อไก่ผู้อาภัพสู่กุนซืออายุน้อยสุดในพรีเมียร์ลีก appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

แน่นอนว่ามีไม่กี่คนที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมติดตาแฟนบอลแดนผู้ดี และเชื่อว่าชื่อของ ยาคูบู ไอเยกเบนี่ ต้องติดอยู่ในความทรงจำของใคร ๆ หลายคนแน่นอน แม้ขึ้นว่าเป็นดาวเตะจอมพเนจรอีกคนในลีกอังกฤษก็ตาม

ยาคูบู เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 1982 ณ เบนิน ซิตี้ ประเทศไนจีเรีย และเริ่มต้นค้าแข้งในช่วงวัยรุ่นกับ จูเลียส แบร์เกอร์ สโมสรในบ้านเกิดในปี 1997 ก่อนย้ายไปเล่นกับ กิล บิเซนเต้ แบบยืมตัว และ มัคคาบี้ ไฮฟา แบบถาวรในเวลาต่อมา

และกับสโมสรดังจาก อิสราเอล นี่เองที่ หอกชาวไนจีเรีย โชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลทั่วยุโรปได้รู้จักกับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2002-03 ที่ยิงไป 7 ลูกจาก 8 นัด ทำให้ พอร์ทสมัธ ตัดสินใจยืมตัว ยาคูบู มาใช้งานช่วงครึ่งหลังฤดูกาลนั้น

หลังมีส่วนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกสำเร็จ ทำให้ ‘ปอมปีย์’ ตัดสินใจซื้อขาด ยาคูบบู ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์ปี 2003 และตอบแทนผลงานด้วยการพาต้นสังกัดอยู่รอดในลีกสูงสุดได้สำเร็จกับอันดับที่ 13 พร้อมคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสรไปครองด้วยจำนวน 16 ประตูในทุกรายการ

ยาคูบู ค้าแข้งในถิ่น แฟรตตัน ปาร์ค อีก 1 ปีในฤดูกาล 2004-05 และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นเคยกับ 17 ประตูในทุกรายการ โดยประตูส่งท้ายของเขาในเกมเสมอ โบลตัน 1-1 ช่วยให้ พอร์ทสมัธ การันตีรอดตกชั้นด้วย

ต่อมา ยาคูบู ได้ย้ายซบ มิดเดิ้ลสโบรห์ ในซัมเมอร์ปี 2005 ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ทำให้เขากลายเป็นแข้งไนจีเรียที่มีค่าตัวแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีก ณ ตอนนั้น ซึ่งทำผลงานได้สมค่าตัวกับ 19 ประตูมากสุดในทีม พร้อมพา ‘โบโร่’ เข้ารอบชิง ยูฟ่า คัพ ด้วย

ฤดูกาล 2006-07 ยาคูบู ทำผลงานได้ตามมาตรฐาน ด้วยจำนวน 16 ประตูในทุกรายการเป็นรองแค่ มาร์ค วิดูก้า หัวหอกคู่หูทีม ‘สิงห์แดง’ เท่านั้น แต่นั่นก็เป็นฤดูกาลสุดท้ายของ หอกแดนอินทรีมรกตในถิ่น ริเวอร์ไซด์ เช่นกัน

เอฟเวอร์ตัน เป็นสโมสรรายที่ 3 ในอังกฤษที่คว้า ยาคูบู ไปครอง และแน่นอนว่าได้ไปอยู่ในทีมที่ดีกว่าเดิม ย่อมทำให้ฟอร์มของเขาดีขึ้นตามไปด้วย หลังซัดไป 21 ประตู คว้าดาวซัลโวประจำทีมมาครองเป็นสโมสรที่ 3 ในแดนผู้ดี พร้อมพาทีมจบอันดับ 5 ในลีก

ทว่าในฤดูกาล 2008-09 ยาคูบู บาดเจ็บเอ็นร้อยหวายจนต้องพักยาวเกือบทั้งฤดูกาล และเมื่อหายกลับมา ฟอร์มถล่มประตูก็ไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกเลย และไม่สามารถยิงแตะ 2 หลักได้เลยใน 2 ปีต่อมา ณ กูดิสัน ปาร์ค

ฟอร์มที่ตกลงทำให้ ยาคูบู เสียตำแหน่งในทีม ก่อนย้ายไปเรียกความมั่นใจกับ เลสเตอร์ ในแชมเปี้ยนส์ชิพ แบบยืมตัว และลาท็อฟฟี่สีน้ำเงินแบบถาวร ด้วยการโยกซบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในฤดูกาล 2011-12

และ ยาคูบู ก็กลับมาเป็นยอดกองหน้าคนเก่งอีกครั้ง หลังซัดไปทั้งหมด 18 ตุงกับปีแรกในทีม ‘กุหลาบไฟ’ คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสรอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ประตูของเขาไม่พอช่วยให้ทีมรอดตกชั้นในปีนั้นไปได้ ก่อนขอขึ้นบัญชีย้ายทีมหลังจบฤดูกาลนั้น เนื่องจากไม่อยากเล่นในลีกรอง

ในช่วงปลายอาชีพนักเตะ ยาคูบู ได้ย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์หาความท้าทายกับ กวางโจว อาร์ แอนด์ เอฟ ในปี 2012, อัล เรย์ยาน ปี 2014,เรดดิ้ง ปี 2015, เคย์เซริสปอร์ ปี 2015 และ โคเวนทรี ในปี 2017 ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายของเขาในอาชีพ

ด้วยอาการบาดเจ็บที่รบกวนทำให้ ยาคูบู ถูกยกเลิกสัญญา หลังลงสนามเพียง 3 นัด กลายเป็นผู้เล่นไร้สังกัดนับตั้งแต่นั้น ก่อนประกาศแขวนสตั๊ดด้วยวัย 35 ปี ในปีเดียวกัน

หลังแขวนสตั๊ดไป นับตั้งแต่นั้น ยาคูบู ก็เงียบหายไปจากวงการลูกหนัง โดยที่ไม่ทราบเลยว่าเขาเป็นอย่างไร หรือยังวนเวียนเกี่ยวข้องกับฟุตบอลหรือไม่ จนกระทั่งในปี 2020 เขาจะเปิดเผยว่ากำลังทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์นักฟุตบอล เพื่อสานฝันให้กับดาวรุ่งที่อยากเติบโตทำตามฝันในเส้นทางนี้อย่างที่เขาเคยทำได้

ทั้งนี้ ยาคูบู เป็นนักเตะแอฟริกันที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกถึง 95 ลูก ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 เป็นรองแค่ เอ็มมานูเอล อเดาบายอร์ (97) และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (104) เท่านั้น

ถึงแม้ไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือรายการใหญ่ ๆ มาครองได้เลยตลอด 20 ปีในอาชีพก็ตาม

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post ยาคูบู ไอเยกเบนี่ : ดาวยิงจอมแกร่งแดนอินทรีมรกต appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

แต่หากย้อนไปราว ๆ 2 ปี หลายคนรู้จักเขาในฐานะลูกชายของ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลางทีมชาตินอร์เวย์ ที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น และ ฮาแลนด์คนพ่อ ก็เป็นอีกคนที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการลูกหนังแดนผู้ดียุคใหม่ แม้ไม่ได้เป็นสตาร์ดังประจำลีกเหมือนอย่างที่ลูกของเขาในปัจจุบันก็ตาม

อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 1972 ที่เมืองสตาแวนเกอร์ ประเทศนอร์เวย์ และได้เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ บรานน์ สโมสรบ้านเกิดตั้งแต่ชุดเยาวชน โดยเล่นได้ทั้งกองกลาง และ กองหลัง

เขาขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1990 จนถึงปี 1993 ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดูดีใช้ได้ ทำให้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เซ็นสัญญา ฮาแลนด์ไปร่วมทีมในปีนั้น ซึ่งจริง ๆ การซื้อตัวเริ่มต้นตั้งแต่ยุคของ ไบรอัน คลัฟฟ์ในปี 1992 แล้ว แต่มาสำเร็จลุล่วงในยุคของ แฟรงค์ คล้าก ในปีต่อมา

จากนั้นอีก 4 ปี ต่อมา ฮาแลนด์ ก็ได้ย้ายมาเล่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การดูแลของ จอร์จ เกรแฮม แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ล้างแค้นสุดคลาสสิคครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีก

ทีม ‘ยูงทอง’ เปิดรัง เอลแลนด์ โร้ด พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แค้นของพวกเขาในเดือนกันยายนปี 1997 ซึ่งจังหวะหนึ่งในเกม ฮาแลนด์ ได้ทำฟาวล์ รอย คีน กัปตันทีม ‘ปีศาจแดง’ จนล้มไปนอนกองกับพื้น หากดูผิวเผิ่นอาจเป็นการปะทะธรรมดาไม่รุนแรงนัก และการที่ คีโน่ ลงไปดิ้นราวกับแกล้งล้มเพื่อเอาจุดโทษ ทำให้ ฮาแลนด์ ตะคอกใส่กองกลางคู่แข่งว่า ‘สำออย’

แต่จริง ๆ แล้ว คีน เจ็บหนักกว่าที่เห็นเนื่องจากเอ็นเข่า ACL ขาด โดนเปลี่ยนตัวออกทันที ก่อนที่ทีมของเขาจะแพ้ ลีดส์ไป 1-0 และเก็บความแค้นนี้ไว้รอวันเอาคืน ฮาแลนด์ ในซักวันหนึ่ง

ถึงอย่างนั้นในแง่ผลงานของ ฮาแลนด์ กับ ลีดส์ ก็โดดเด่นไม่น้อย ด้วยเป็นหัวใจในแดนกลางของทีม มีส่วนสำคัญในการพาสโมสรจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 1998-99 และถึงบทบาทจะน้อยลงในฤดูกาลต่อมา แต่ก็มีส่วนช่วยให้ ลีดส์ ทะลุไปถึงรอบตัดเชือก ยูฟ่า คัพ รวมถึงจบอันดับ 3 คว้าตั๋วลุยแชมเปี้ยนสลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

อย่างไรก็ตาม ฮาแลนด์ ถูกขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2000 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรพิเศษเกิดขึ้นในระหว่างนั้น จนกระทั่งเกมไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเดือนเมษายนปี 2001

ณ เวลานั้น ‘ปีศาจแดง’ การันตีแชมป์ลีกไปเรียบร้อย จึงโอกาสเหมาะสมที่ รอย คีน จะเอาคืน ฮาแลนด์ จากความแค้นที่เขาสั่งสมมานานกว่า 4 ปี ด้วยการเปิดปุ่มถีบไปที่เข่าขวาของ กองกลาง เรือใบสีฟ้า อย่างโหดเหี้ยม พร้อมรับใบแดงไปแบบไม่มีข้อกังขา และโดนแบน 4 นัด กับโดนปรับ 5,000 ปอนด์

แน่นอนว่า ฮาแลนด์ บาดเจ็บทันทีที่หัวเข่าขวา และ ตั้งแต่โดนคีนเตะหัวเข่าครั้งนั้น เขาลงเล่นเพิ่มอีก 3 นัด และไม่เคยได้ลงเล่นครบ 90 นาทีอีกเลยในฟุตบอลอาชีพ

สุดท้ายแพทย์ระบุว่า เขาต้องใช้เวลาถึง 2 ปี กว่าที่เข่า 2 ข้างจะกลับมาสมบูรณ์ได้เหมือนเดิมอีกครั้ง นั่นเป็นเหตุให้ ฮาแลนด์ จำใจแขวนสตั๊ดในปี 2003 ทั้ง ๆ ที่เหลือสัญญากับ แมนซิตี้ถึงปี 2005

แต่เรื่องราวนี้ยังไม่จบง่าย ๆ เมื่อ คีน ได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองชื่อ “Keane” ซึ่งพูดถึงจังหวะนี้ไว้เขาตั้งใจเล่นงาน แข้งชาวนอร์เวย์ เพื่อล้างแค้นจากการกล่าวหาว่าเขาสำออยเมื่อปี 1997 ทำให้ ฮาแลนด์ โกรธแค้นมาก และแจ้งเรื่องกับทาง FA ว่าต้องเอาผิดรอย คีนให้ได้ จนต้องมีการไตร่สวนพิเศษขึ้นมาเลย

บทสรุปการพิจารณาคดีออกมา คีนโดนปรับเงิน 150,000 ปอนด์ เป็นตัวเลขค่าปรับที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกยุคนั้น อย่างไรก็ตาม แม้มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ท้ายที่สุด ฮาแลนด์ ก็ไม่เคยดำเนินการทางกฎหมายกับ คีน เลย และไม่เคยพูดตรง ๆ ว่า อดีตกองกลางชาวไอร์แลนด์เป็นคนปิดฉากอาชีพเขาจริง ๆ

อีกทั้งในตอนนั้นเป็นช่วงที่ ฮาแลนด์ มีปัญหาที่เข่าข้างซ้ายอยู่แล้ว และต้องผ่าตัดในซัมเมอร์ปี 2001 ไม่ใช่เข่าข้างขวาที่โดน คีน เอาคืนแต่อย่างใด

ฮาแลนด์ หวนกลับมาค้าแข้งอีกครั้งในปี 2011 กับ รอสเซลแลนด์ บีเค สโมสรระดับดิวิชั่น 3 ในนอร์เวย์ และแขวนสตั๊ดอีกครั้งในปี 2012

ฮาแลนด์ผู้พ่ออาจปิดฉากอาชีพค้าแข้งก่อนวัยอันควรด้วยปัญหาที่หัวเข่า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาได้สร้างดาวเตะมากพรสรรค์ขึ้นมาแทนที่ และเก่งกาจกว่าเขาด้วย นั่นก็คือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ลูกชายของเขานั่นเอง

แต่จะย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามรอยผู้เป็นพ่อ หรือข้ามฝากไปซบคู่อริร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงต้องจับตาดูอนาคตของพ่อลูกคู่นี้กันต่อไป

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ : พ่อเด็กยักษ์กองกลางคู่แค้นคีโน่ appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

ฮัลล์ ซิตี้ ถือเป็นหนึ่งในทีมโยโย่ที่เลื่อนชั้นและร่วงจากพรีเมียร์ลีกบ่อย ๆ ในช่วง 10 ปีทีผ่านมา และอยู่เต็มที่ไม่เกิน 2 ปีเท่านั้นในลีกสูงสุดแดนผู้ดี เนื่องจากศักยภาพของทีมที่จำกัด ไม่มีสตาร์ดังมากมายเช่นทีมอื่น ๆ

แต่ช่วงที่ทีมอยู่รอดปลอดภัยช่วงปี 2008-09 มีนักเตะคนหนึ่งที่ทำผลงานได้โดดเด่นเกินใครใน ‘เดอะ ไทเกอร์ส’ แทบจะแบกทีมอยู่คนเดียวก็คงไม่ผิดนัก และคน ๆ นั้นก็คือ โจวานนี่ ปีกชาวบราซิลเลี่ยนดีกรีอดีตแข้ง บาร์เซโลน่า ที่สร้างปรากฏการณ์ในพรีเมียร์ลีก แม้เพียงชั่วครู่ชั่วคราวก็ตาม

โจวานนี่ เกิดวันที่ 11 มกราคม ปี 1980 ณ เมืองอาไคาอาค่า รัฐมีนัสเชไรส์ ประเทศบราซิล และเริ่มเล่นฟุตบอลกับ ครูเซโร่ ยอดสโมสรในบ้านเกิดตั้งแต่ชุดเยาวชน ก่อนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ในปี 1997

ปีกแซมบ้า ถูกปล่อยยืมหาประสบการณ์กับ อเมริกา เอ็มจี ทีมร่วมลีก ในฤดูกาล 1998 และด้วยผลงานที่น่าประทับใจ ทำให้เขาได้เป็นตัวหลักใน ครูเซโร่ ในปีต่อมา พร้อมมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วย โคปา โด บราซิล ในปี 2000 ด้วย

ความยอดเยี่ยมที่ปรากฏให้เห็นในสนามทำให้ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจคว้า โจวานนี่ วัย 21 ปีไปร่วมทีมทันทีในซัมเมอร์ปี 2001 ด้วยค่าตัวสูงถึง 21 ล้านยูโร ทว่าเมื่อได้ค้าแข้งในสเปน กลับไม่เป็นไปตามที่สโมสรและตนเองหวัง เมื่อลงเล่นเพียง 21 นัดในลีก ซึ่งมาจากการเป็นตัวสำรองส่วนใหญ่ และไม่ได้สร้างผลกระทบในทีม ‘เจ้าบุญทุ่ม’ ได้เลย

การเป็นส่วนเกินในทีมของ การ์เลส เลซาล ทำให้ โจวานนี่ ถูกปล่อยให้ เบนฟิก้า ยืมตัวช่วงกลางฤดูกาล 2002-03 ก่อนที่ทีมจากโปรตุเกสจะซื้อขาดไปร่วมทีมหลังจบฤดูกาลนั้น และที่นี่กลายเป็นที่ที่ โจวานนี่ กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง

ตลอด 3 ปี เขาพา เบนฟิก้า คว้าแชมป์ลีกฝอยทอง 1 สมัย และบอลถ้วยอีก 1 สมัย พร้อมคว้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม จนถูกโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร 2 ปีติด (2004, 2005) แต่โชคไม่ดีที่เขาต้องยกเลิกสัญญากับทีมในปี 2006 เนื่องจากปัญหาด้านครอบครัวจนต้องกลับไปบ้านเกิด

โจวานี่ กลับไปเล่นให้ ครูเซโร่ ทีมที่เขาแจ้งเกิดอีกครั้ง แต่เล่นในบ้านเกิดเพียงปีเดียวก็ย้ายกลับมาค้าแข้งในยุโรปกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2007 ด้วยสัญญาเพียง 1 ปี และด้วยผลงาน 3 ประตูจาก 20 นัดในทุกรายการ ก็ไม่เพียงพอที่ ‘เรือใบสีฟ้า’ จะมอบสัญญาใหม่ให้ พร้อมถูกปล่อยตัวในปี 2008

หลังกลายเป็นแข้งไร้สังกัดเพียงไม่กี่วัน โจวานนี่ ก็เซ็นสัญญากับ ฮัลล์ ซิตี้ ทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2008-09 แบบไร้ค่าตัว ซึ่งโชว์คุ้มค่าตั้งแต่นัดประเดิมสนามด้วยการยิงประตูแรกในเกมพบ ฟูแล่ม

ฟอร์มของ ดาวเตะแซมบ้า เป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังกดประตูสุดสวยในเกมเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1, ปั่นฟรีคิกระยะ 30 หลาช่วยทีมเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1-0 จนทีมทะยานขึ้นไปรั้งที่ 3 ในลีกแบบไม่มีใครคาดคิด

โจวานนี่ แบกทีมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหลังเดือนตุลาคมเป็นต้นมา เดอะ ไทเกอร์ ดันฟอร์มตกสุด ๆ จนชนะเพียง 2 นัดเท่านั้นจากเกมที่เหลือในลีก แต่ด้วยความยอดเยี่ยมที่ ปีกละตินอเมริกา ทำไว้ช่วงต้นฤดูกาล ทำให้ทีมของ ฟิล บราวน์ รอดตกชั้นแบบหวุดหวิด กับอันดับที่ 17

อดีตปีกบาร์ซ่า จบปีแรกใน เคซี สเตเดี้ยม ด้วยการรั้งดาวซัลโวของสโมสรที่ 8 ประตู ซึ่งทำให้ทีมตัดสินใจขยายสัญญาเขาถึงปี 2011

แน่นอนว่า โจวานนี่ ก็ยังทำผลงานได้ดีกับ ฮัลล์ ในฤดูกาล 2009-10 แต่การแบกทีมเพียงคนเดียวคงเป็นเรื่องที่หนักหนาเกินไป แม้ทีมกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีช่วงพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เข้าลูปเดิม ก่อนจบอันดับรองบ๊วยพรีเมียร์ลีก และต้องไปเริ่มใหม่ในแชมเปี้ยนส์ชิพอีกครั้ง

หลังตกชั้น ฮัลล์ ก็ประกาศยกเลิกสัญญากับ โจวานนี่ ทั้งที่เหลือสัญญากับทีม 1 ปี เนื่องจากต้องการลดค่าเหนื่อยนักเตะในทีม และมีข่าวได้รับความสนใจจาก เออีเค เอเธนส์ และ พานาธิไนกอส 2 สโมสรดังจากกรีซ

ทว่ากลับกลายเป็น ซาน โฮเซ่ เอิร์ธเควกส์ ที่คว้า โจวานนี่ ไปครอง และกลายเป็นนักเตะคนแรกของสโมสรที่ใช้กฏ Designated Player Rule ซึ่งสามารถจ่ายค่าเหนื่อยเขาเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีขีดจำกัด

ทว่าเจ้าตัวก็ค้าแข้งในอเมริกาไม่ถึงปีก็เลือกลาทีม และย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ วิคตอเรีย ในเดือนมกราคมปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้งแล้ว จากนั้นก็โยกไปเล่นกับ อเมริกา เอ็มจี ในปี 2012 ก่อนจะแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการกับ บรากันติโน่ ในปี 2013 ด้วยวัย 33 ปี

ปัจจุบันไม่มีใครทราบว่า โจวานนี่ ยังทำงานวนเวียนอยู่ในวงการฟุตบอลหรือไม่ แต่ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออยู่บ้างช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่า ฮัลล์ ซิตี้ เป็นทีมแรก ๆ ในอาชีพค้าแข้งที่เขาหยิบมาพูดถึงเสมอ และคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นกับสโมสร แม้เกิดขึ้นเพียงไม่นาน

และเชื่อว่า สาวก “เดอะ ไทเกอร์ส” ก็ยกย่องให้ โจวานนี่ เป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจของพวกเขาตลอดไป และยินดีต้อนรับ โจวานนี่ กลับมาเสมอ ไม่ว่าในบทบาทไหนก็ตาม

ฮัลล์ ซิตี้ ถือเป็นหนึ่งในทีมโยโย่ที่เลื่อนชั้นและร่วงจากพรีเมียร์ลีกบ่อย ๆ ในช่วง 10 ปีทีผ่านมา และอยู่เต็มที่ไม่เกิน 2 ปีเท่านั้นในลีกสูงสุดแดนผู้ดี เนื่องจากศักยภาพของทีมที่จำกัด ไม่มีสตาร์ดังมากมายเช่นทีมอื่น ๆ

แต่ช่วงที่ทีมอยู่รอดปลอดภัยช่วงปี 2008-09 มีนักเตะคนหนึ่งที่ทำผลงานได้โดดเด่นเกินใครใน ‘เดอะ ไทเกอร์ส’ แทบจะแบกทีมอยู่คนเดียวก็คงไม่ผิดนัก และคน ๆ นั้นก็คือ โจวานนี่ ปีกชาวบราซิลเลี่ยนดีกรีอดีตแข้ง บาร์เซโลน่า ที่สร้างปรากฏการณ์ในพรีเมียร์ลีก แม้เพียงชั่วครู่ชั่วคราวก็ตาม

โจวานนี่ เกิดวันที่ 11 มกราคม ปี 1980 ณ เมืองอาไคาอาค่า รัฐมีนัสเชไรส์ ประเทศบราซิล และเริ่มเล่นฟุตบอลกับ ครูเซโร่ ยอดสโมสรในบ้านเกิดตั้งแต่ชุดเยาวชน ก่อนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ในปี 1997

ปีกแซมบ้า ถูกปล่อยยืมหาประสบการณ์กับ อเมริกา เอ็มจี ทีมร่วมลีก ในฤดูกาล 1998 และด้วยผลงานที่น่าประทับใจ ทำให้เขาได้เป็นตัวหลักใน ครูเซโร่ ในปีต่อมา พร้อมมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วย โคปา โด บราซิล ในปี 2000 ด้วย

ความยอดเยี่ยมที่ปรากฏให้เห็นในสนามทำให้ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจคว้า โจวานนี่ วัย 21 ปีไปร่วมทีมทันทีในซัมเมอร์ปี 2001 ด้วยค่าตัวสูงถึง 21 ล้านยูโร ทว่าเมื่อได้ค้าแข้งในสเปน กลับไม่เป็นไปตามที่สโมสรและตนเองหวัง เมื่อลงเล่นเพียง 21 นัดในลีก ซึ่งมาจากการเป็นตัวสำรองส่วนใหญ่ และไม่ได้สร้างผลกระทบในทีม ‘เจ้าบุญทุ่ม’ ได้เลย

การเป็นส่วนเกินในทีมของ การ์เลส เลซาล ทำให้ โจวานนี่ ถูกปล่อยให้ เบนฟิก้า ยืมตัวช่วงกลางฤดูกาล 2002-03 ก่อนที่ทีมจากโปรตุเกสจะซื้อขาดไปร่วมทีมหลังจบฤดูกาลนั้น และที่นี่กลายเป็นที่ที่ โจวานนี่ กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง

ตลอด 3 ปี เขาพา เบนฟิก้า คว้าแชมป์ลีกฝอยทอง 1 สมัย และบอลถ้วยอีก 1 สมัย พร้อมคว้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม จนถูกโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร 2 ปีติด (2004, 2005) แต่โชคไม่ดีที่เขาต้องยกเลิกสัญญากับทีมในปี 2006 เนื่องจากปัญหาด้านครอบครัวจนต้องกลับไปบ้านเกิด

โจวานี่ กลับไปเล่นให้ ครูเซโร่ ทีมที่เขาแจ้งเกิดอีกครั้ง แต่เล่นในบ้านเกิดเพียงปีเเดียวก็ย้ายกลับมาค้าแข้งในยุโรปกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2007 ด้วยสัญญาเพียง 1 ปี และด้วยผลงาน 3 ประตูจาก 20 นัดในทุกรายการ ก็ไม่เพียงพอที่ ‘เรือใบสีฟ้า’ จะมอบสัญญาใหม่ให้ พร้อมถูกปล่อยตัวในปี 2008

หลังกลายเป็นแข้งไร้สังกัดเพียงไม่กี่วัน โจวานนี่ ก็เซ็นสัญญากับ ฮัลล์ ซิตี้ ทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2008-09 แบบไร้ค่าตัว ซึ่งโชว์คุ้มค่าตั้งแต่นัดประเดิมสนามด้วยการยิงประตูแรกในเกมพบ ฟูแล่ม

ฟอร์มของ ดาวเตะแซมบ้า เป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังกดประตูสุดสวยในเกมเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1, ปั่นฟรีคิกระยะ 30 หลาช่วยทีมเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1-0 จนทีมทะยานขึ้นไปรั้งที่ 3 ในลีกแบบไม่มีใครคาดคิด

โจวานนี่ แบกทีมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหลังเดือนตุลาคมเป็นต้นมา เดอะ ไทเกอร์ ดันฟอร์มตกสุด ๆ จนชนะเพียง 2 นัดเท่านั้นจากเกมที่เหลือในลีก แต่ด้วยความยอดเยี่ยมที่ ปีกละตินอเมริกา ทำไว้ช่วงต้นฤดูกาล ทำให้ทีมของ ฟิล บราวน์ รอดตกชั้นแบบหวุดหวิด กับอันดับที่ 17

อดีตปีกบาร์ซ่า จบปีแรกใน เคซี สเตเดี้ยม ด้วยการรั้งดาวซัลโวของสโมสรที่ 8 ประตู ซึ่งทำให้ทีมตัดสินใจขยายสัญญาเขาถึงปี 2011

แน่นอนว่า โจวานนี่ ก็ยังทำผลงานได้ดีกับ ฮัลล์ ในฤดูกาล 2009-10 แต่การแบกทีมเพียงคนเดียวคงเป็นเรื่องที่หนักหนาเกินไป แม้ทีมกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีช่วงพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เข้าลูปเดิม ก่อนจบอันดับรองบ๊วยพรีเมียร์ลีก และต้องไปเริ่มใหม่ในแชมเปี้ยนส์ชิพอีกครั้ง

หลังตกชั้น ฮัลล์ ก็ประกาศยกเลิกสัญญากับ โจวานนี่ ทั้งที่เหลือสัญญากับทีม 1 ปี เนื่องจากต้องการลดค่าเหนื่อยนักเตะในทีม และมีข่าวได้รับความสนใจจาก เออีเค เอเธนส์ และ พานาธิไนกอส 2 สโมสรดังจากกรีซ

ทว่ากลับกลายเป็น ซาน โฮเซ่ เอิร์ธเควกส์ ที่คว้า โจวานนี่ ไปครอง และกลายเป็นนักเตะคนแรกของสโมสรที่ใช้กฏ Designated Player Rule ซึ่งสามารถจ่ายค่าเหนื่อยเขาเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีขีดจำกัด

ทว่าเจ้าตัวก็ค้าแข้งในอเมริกาไม่ถึงปีก็เลือกลาทีม และย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ วิคตอเรีย ในเดือนมกราคมปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้งแล้ว จากนั้นก็โยกไปเล่นกับ อเมริกา เอ็มจี ในปี 2012 ก่อนจะแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการกับ บรากันติโน่ ในปี 2013 ด้วยวัย 33 ปี

ปัจจุบันไม่มีใครทราบว่า โจวานนี่ ยังทำงานวนเวียนอยู่ในวงการฟุตบอลหรือไม่ แต่ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออยู่บ้างช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่า ฮัลล์ ซิตี้ เป็นทีมแรก ๆ ในอาชีพค้าแข้งที่เขาหยิบมาพูดถึงเสมอ และคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นกับสโมสร แม้เกิดขึ้นเพียงไม่นาน

และเชื่อว่า สาวก “เดอะ ไทเกอร์ส” ก็ยกย่องให้ โจวานนี่ เป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจของพวกเขาตลอดไป และยินดีต้อนรับ โจวานนี่ กลับมาเสมอ ไม่ว่าในบทบาทไหนก็ตาม

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post โจวานนี่ : ปีกแซมบ้าจอมแบกแห่ง ฮัลล์ ซิตี้ appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

ก่อนที่ ลอริส คาริอุส จะมีชื่อเสียงในด้านลบหลังก่อความผิดพลาดในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก จนถูกล้อเลียนยาวมาจนถึงปัจจุบัน จริงๆ ลิเวอร์พูล ก็เคยมี “ตำหนิ” กับความสะเพร่าของผู้รักษาประตูที่เป็นช็อตแห่งความทรงจำมาแล้วมากมาย

เจซซี่ ดูเด็ค ที่เป็นฮีโร่พาทีมคว้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 5 ก็เคยปล่อยลูกยิงของ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน “LORD DARK” จนอับอายไปทั่วทั้งโลก หรือจะเป็น เปเป้ เรน่า ก็ถึงกับเขินม้วนไปเลยเมื่อเจอ ดาร์เรน เบนท์ ยิงแฉลบลูกโป้งเข้าประตู

อย่างล่าสุดก็ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่ว่าเหนียวหนึบหนับก็มีอาการเออเร่อเหมือนกันในซีซั่นนี้ พลาด 2-3 ช็อตติดๆ กันในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อไม่นานมานี้เอง

อย่างไรก็ตามถ้าย้อนความไปยังอดีตกาล ผู้ได้รับฉายา “จอมเหวอ” รุ่นบุกเบิกในรั้วแอนฟิลด์ คงไม่มีใครกล้าลืมชายที่ชื่อ “เดวิด เจมส์” อย่างแน่นอน

เจมส์ เริ่มต้นอาชีพกับ วัตฟอร์ด แม้จะเล่นในลีกรอง แต่ด้วยรูปร่างที่ดี ปฎิกิริยาที่ว่องไว ไปเตะตา แกรม ซูเนสส์ ที่ต้องการดึงมาปลุกปั้นต่อเพื่อเป็นตัวแทนของสุดยอดประตูอย่าง บรูซ กร็อบเบลาร์ ที่โรยราลงไปตามกาลเวลา

ผู้รักษาประตูที่เกิดในเมืองลูตัน ทาวน์ เริ่มต้นด้วยการเป็นมือหนึ่งของ “หงส์แดง” ทันทีในปี 1992 แม้จะมีฟอร์มแผ่วโดนยิง 20 ประตูจาก 11 เกมแรกจนถูกดร็อปเป็นสำรองในฤดูกาลต่อมา แต่สุดท้ายก็กลับมายึดตำแหน่งคืนอีกครั้งในยุคของ รอย อีแวนส์

รวมๆ แล้ว เจมส์ ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล 7 ฤดูกาล ลงเฝ้าเสาไปเกือบ 300 นัดนับรวมทุกรายการ เกียรติประวัติที่ดีที่สุดคือการเป็นหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์ ลีก คัพ เมื่อปี 1995 และเป็นรองแชมป์เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลต่อมา

“Calamity James” หรือ “เจมส์ จอมหายนะ” คือฉายาที่แฟนบอลตั้งให้ หลังเจ้าตัวออกลูกเฟอะฟะบ่อยครั้ง โดยแสดงจุดอ่อนเรื่องลูกกลางอากาศมาตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97 ซึ่งบางครั้งก็รุนแรงถึงขั้นทำให้ทีมเสียประตู

ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็ทนไม่ไหวดัน แบร็ด ฟรีเดล นายด่านโนเนมทีมชาติสหรัฐ ขึ้นมาแทน และตัดสินใจขายเขาให้กับ แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 1.8 ล้านปอนด์ ก่อนจะพเนจรย้ายไป เวสต์แฮม และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามลำดับ

การย้ายจากทีมใหญ่ มาอยู่กับสโมสรที่เล็กลงมีส่วนช่วยลดความกดดันลงอย่างมาก เจมส์ ผู้ไม่เคยย่อท้อต่อคำปรามาสค่อยๆ พิสูจน์ตัวเองว่าเขาคือหนึ่งในผู้รักษาประตูเบอร์ต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก

เดวิด เจมส์ มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ มาตั้งแต่ปี 1997 แต่ช่วงที่พีกที่สุดคือสมัยเล่นให้กับ “เรือใบสีฟ้า” ที่ทำผลงานได้ดีจนถึงขั้นก้าวไปรับไม้ต่อจาก เดวิด ซีแมน ในการเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ ได้ลุยศึกใหญ่อย่าง ยูโร 2004

ด้วยความเป็นมืออาชีพ การเป็นแข้งเก๋าที่รุ่นน้องรับถือ ในวัย 36 ปี เจมส์ ก็ยังได้รับความไว้วางใจจากทีมในลีกสูงสุด หลังถูก แฮร์รี่ เรดแนปป์ ดึงไปร่วมทีม พอร์ทสมัธ และกลายเป็นหนึ่งในขุนพลชุดประวัติศาสตร์ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้แบบเหนือความคาดหมาย

ช่วงท้ายอาชีพ เจมส์ ยังตะเวนค้าแข้งกับอีก 4 สโมสรได้แก่ บริสตอล ซิตี้, บอร์นมัธ, ไอบีวี และปิดฉากเส้นทางนักเตะอาชีพกับ เคราล่า บลาสเตอร์ส ในลีกอินเดีย ด้วยวัย 44 ปี

เรื่องราวของ เดวิด เจมส์ อาจไม่ใช่นักเตะชื่อก้องโลกที่น่าจดจำ แถมยังมีวีรกรรมห่วยๆ ที่เป็นตราบาปติดตัวอีกตั้งหาก แต่ถ้าใครได้ศึกษาประวัติของเขาจริงๆ นี่คือแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบมากๆ สำหรับนักฟุตบอลอาชีพ

เคยผ่านมาจุดตกต่ำแต่ก็กลับมาฟื้นคืนชีพได้ด้วยความมุ่งมานะ พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า “โอกาส” มันเปิดกว้างเสมอสำหรับนักสู้

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post เดวิด เจมส์ : จากจอมเหวอสู่ผู้รักษาประตูทีมชาติ appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

นอกจากมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมแล้ว นักเตะหลายคนในพรีเมียร์ลีกยังมีหน้าตาที่หล่อเหลาเอาการ และสามารถไปเอาดีด้านดาราหรือนายแบบ แทนที่ อาชีพค้าแข้งได้เลย และ ฮวน ปาโบล อังเคล ก็เป็นหนึ่งในนั้น

อดีตดาวยิงทีมชาติโคลอมเบีย โด่งดังมาก ๆ ในช่วงปลายยุค 90 ถึง 2000 ทั้งกับ ริเวอร์เพลท หรือ แอสตัน วิลล่า ที่ที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกที่เป็นคอบอลอังกฤษรู้จักชื่อของเขามากขึ้น

ฮวน ปาโบล อังเคล เกิดในวันที่ 24 ตุลาคม ปี 1975 และเริ่มเล่นฟุตบอลกับ แอตเลติโก้ นาซิอองนาล สโมสรในโคลอมเบียบ้านเกิด ก่อนถูกดันขึ้นชุดใหญ่ในวัยเพียง 18 ปี อีกทั้งอยู่ในชุดที่ทีมคว้าแชมป์ลีกปี 1994 ด้วย

หลังค้าแข้งได้ 5 ปีเศษ ๆ ในบ้านเกิด ปาโบล อังเคล ก็ย้ายไปเล่นต่างแดนเป็นครั้งแรกกับ ริเวอร์เพลท ยอดสโมสรจาก อาร์เจนตินน่า ในปี 1998 เพื่อแแทนที่ เออร์นาน เครสโป ที่ย้ายไปยุโรป ก่อนโด่งดังเปรี้ยงปร้าง หลังประสานงานในแดนหน้าร่วมกับ มาร์เซโล่ ซาลาส ได้อย่างลงตัว พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลีกแดนฟ้าขาว 2 สมัย

ไม่แปลกที่ฟอร์มการเล่นแบบนี้จะดึงดูดให้แมวมองจากสโมสรดังในยุโรปเข้ามาจับตามอง หนึ่งในนั้นคือ แอสตัน วิลล่า สโมสรจากอังกฤษ ซึ่งเป็นที่รู้จักของแฟนบอลอังกฤษดี แต่ไม่ใช่กับคนส่วนมากในโคลอมเบีย เนื่องจาก พรีเมียร์ลีก ไม่ได้รับนิยมในอเมริกาใต้ เท่ากับ เซเรียอา หรือ ลาลีก้า

ท้ายที่สุดก็เป็น ‘สิงห์ผงาด’ ที่คว้า ปาโบล อังเคล ได้ร่วมทีมได้ด้วยค่าตัว 9.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติของสโมสรในขณะนั้น เมื่อเดือนมกราคมปี 2001 และ การย้ายมาอังกฤษ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีข้อเสนอจาก อิตาลี และสเปน เข้ามา กลายเป็นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขา เพราะมันต้องปรับตัวหลายอย่าง ทั้งอากาศ, อาหาร, ภาษา และฟุตบอลอังกฤษก็ไม่เหมือนที่อื่น

นั่นทำให้ช่วงแรกที่ หอกโคลอมเบีย ย้ายมาอังกฤษ โดนปรามาสจากแฟนบอลไม่น้อย หรือถึงสื่อบางสำนักว่า มีดีแค่หล่ออย่างเดียว ค่าตัวก็แพงใช่ย่อย แต่ฟอร์มฝืดสุด ๆ

ทว่าเมื่อเริ่มปรับตัวได้ในฤดูกาล 2001-02 ฮวน ปาโบล อังเคล ก็เริ่มผลิตสกอร์ได้เรื่อย ๆ จนกลายเป็นขวัญใจแฟนวิลล่าไปในบรรดล ด้วยการซัดไป 16 ประตู จาก 34 นัดในทุกรายการ

รวมถึงช่วงพีกสุด ๆ ในฤดูกาล 2003-04 ด้วยการซัดไป 23 ประตูจาก 39 นัด รั้งดาวซัลโวของสโมสรในปีนั้น พร้อมเป็นนักวิลล่ารายแรกที่ยิงได้เกิน 20 ประตูในฤดูกาลเดียว ก่อนที่ คริสติยอง เบนเตเก้ และ แทมมี่ อับราฮัม จะทำได้ ในฤดูกาล 2012-13 และ 2018-19 ตามลำดับ

โชคร้ายหน่อยที่การเปลี่ยนกุนซือบ่อยของ ‘สิงห์ผาด’ ในช่วงนั้น จาก จอห์น เกรกอรี่ มาเป็น เกรแฮม เทย์เลอร์ มาเป็น เดวิด โอเลียรี่ และ มาร์ติน โอนีล รวมถึงความไม่แน่นอนในการบริหารสโมสร ทำให้แนวทางการเล่นของทีมเปลี่ยนไป และส่งผลทำให้ หอกแดนละตินอเมริกา ฟอร์มตกลง

นั่นทำให้เจ้าตัวตัดสินใจ เก็บข้าวออกจากวิลล่า ปาร์ค ในปี 2007 หลังค้าแข้งมานานกว่า 6 ปี พร้อมทิ้งผลงานไว้กับประตู 62 ประตู จาก 205 นัดในทุกรายการ เป็นรองเพียง ดไวท์ ยอร์ค (97 ประตู จาก 288 นัด) และ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (74 ประตู จาก 284 นัด) เท่านั้น ในยุคพรีเมียร์ลีก พร้อมมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ อินเตอร์โตโต้ คัพ ในปี 2001 ด้วย

สถานีต่อไปของ ปาโบล อังเคล คือ นิว ยอร์ค เร้ด บูลล์ส ในเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ และกลับมาโชว์ฟอร์มยิงกระจายอีกครั้งในแดนลุงแซม ด้วยกดไป 58 ประตูจาก 102 นัด ตลอด 3 ปีในทีม และมีส่วนสำคัญพาทีมตั๋วไปเล่นเพลย์ออฟในปี 2008 น่าเสียดายที่พ่ายให้กับ โคลัมบัส ครูว์ ในนัดชิงชนะเลิศ

จากนั้น หอกชาวโคลอมเบีย ก็ยังค้าแข้งกับ อเมริกา อีก 2 ปี กับ แอลเอ กาแล็คซี่ และ ชิวาส ยูเอสเอ ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับ แอตเลติโก้ นาซิอองนาล สโมสรแรกของเขาอีกครั้งในปี 2013 และแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในปี 2014 ด้วยวัย 39 ปี

ปัจจุบัน อังเคล ปาโบล ก็ยังวนเวียนอยู่กับวงการฟุตบอลลด้วยการดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ แอลเอ เอฟซี สโมสรดัง MLS ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังวนเวียนกลับมาเยี่ยม แอสตัน วิลล่า อยู่บ้างเป็นครั้งคราวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ล่าสุด ในฤดูกาลนี้เอง ลูกชายของเขา โตมัส อังเคล วัย 18 ปี ก็เพิ่งขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ แอตเลติโก้ นาซิอองนาล สโมสรเก่าของพ่อ เล่นเป็นกองหน้าเหมือนพ่อ ยิงไปแล้ว 1 ประตูจาก 6 นัด

เพราะฉะนั้น หาก อังเคล คนลูก ได้มีโอกาสย้ายมาค้าแข้งและล่าตาข่ายให้ แอสตัน วิลล่า เหมือนที่ อังเคล คนพ่อ เคยทำไว้ คงทำให้ทั้ง แฟนบอลสิงห์ผงาด รวมถึงพ่อของเขา เป็นปลื้มไม่น้อยเลย

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post ฮวน ปาโบล อังเคล : ดาวยิงหล่อเท่แดนโคลอมเบีย appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.

หากย้อนไปในช่วงแรก ๆ ของ พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ห่างไกลกับคำว่ายอดทีมเบอร์ต้น ๆ ของอังกฤษอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาเป็นแค่ทีมระดับกลางตาราง แถมยังต้องดิ้นรนตกชั้นด้วยซ้ำในบางฤดูกาล

ทว่าในช่วงยุค 90 ‘เรือใบสีฟ้า’ ก็ยังมียอดนักเตะที่แฟนบอลยกให้ขวัญใจของพวกเขาแบบไม่มีข้อโต้แย้ง นั่นก็คือ จอร์จี้ คินคลัดเซ่ ดาวเตะชาวจอร์เจีย ที่ย้ายมาโชว์ฟอร์มเทพในช่วงที่สโมสรตกต่ำที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก

คินคลัดเซ่ ลืมตาดูโลกในวันที่ 6 กรกฏาคม ปี 1973 ณ เมือง ทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย ซึ่งในช่วงนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตอยู่ ก่อนที่ โรบินสัน พ่อของเขา จะผลักดันเขาให้เขาสู่โลกของลูกหนังตั้งแต่เด็กด้วยการพาลูกชายเข้าทีมชุดเยาวชนของ ดินาโม ทบิลิซี่ ในวัย 6 ขวบ

แต่เมื่อ ฟุตบอลจอร์เจีย ได้แยกลีกออกจากโซเวียตเป็นของตัวเองในปี 1989 คินคลัดเซ่ ก็เลือกย้ายมาเล่นกับ มเรเทบี้ ทบิลิซี่ ซึ่งเป็นสโมสรหน้าใหม่ในตอนนั้น แต่ก็ทำให้เขามีโอกาสลงเล่นฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรก และประเดิมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี พร้อมกลายเป็นตัวหลักในทีมทันที

หลังพาทีมเลื่อนชั้นไปเล่นลีกสูงสุดได้เพียง 1 ปี คินคลัดเซ่ ก็ย้ายกลับไป ดินาโม ทบิลิซี่ ในฐานะสตาร์ดัง พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลีกจอร์เจียได้ 2 ครั้ง และแชมป์บอลถ้วยอีก 2 สมัย ตลอด 4 ปี พร้อมคว้าแข้งยอดเยี่ยมของประเทศถึง 2 หน

แต่สงครามกลางเมืองในประเทศปี 1993 ทำให้บอร์ดบริหารส่งตัวเขาให้ทีมต่างประเทศยืมไปใช้งาน เนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัยของนักเตะ ทั้งกับ ซาบรุคเค่น สโมสรลีกล่างเยอรมันปี 1993 และ โบคา จูเนียร์ส ปี 1994 แต่ก็ไม่มีทีมไหนสนใจคว้าไปร่วมทีมแบบถาวร

จนกระทั่ง ฟรานซิส ลี ประธานสโมสรของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เห็นเทปบันทึกฟอร์มการเล่นของ ดาวเตะทีมชาติจอร์เจีย จึงให้ความสนใจในทันที และคว้าตัวเขาไปร่วมทีมดั่งหวังในซัมเมอร์ปี 1995 ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์

‘เรือใบสีฟ้า’ ฟอร์มแย่ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 1995-96 เมื่อไม่ชนะใครเลยในลีกตลอด 3 เดือนแรกของฤดูกาลนั้น แต่ คินคลัดเซ่ ก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลอย่างรวดเร็ว แม้ในตอนแรกเขามีปัญหาในการปรับตัวเพราะคิดถึงบ้านเกิด แต่ แม่ของเขา ก็ย้ายมาอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ เพื่อจัดหาอาหารที่เขาคุ้นเคยให้ และช่วยให้เขาปรับตัวในแดนผู้ดีได้

ด้วยลีลาการลากเลื่อยที่ไม่เป็นสองรองใคร พร้อมฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นเหนือทุกคนในทีม ทำให้หลายคนยกให้ คินคลัดเซ่ เป็นนักเตะเบอร์หนึ่งของ ซิตี้ ในตอนนั้น จนคว้ารางวัลประตูสุดสวยประจำเดือนมีนาคม ในเกมที่เอาชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 ด้วยการชิพข้ามหัว เดฟ บีแซนท์ เข้าไปอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรในฤดูกาลนั้นด้วย

แม้พยายามแบกทีมมากแค่ไหน แต่ คินคลัดเซ่ ก็ไม่สามารถช่วยให้ ซิตี้ รอดตกชั้นได้ในฤดูกาลนั้น แต่เขาก็เลือกอยู่ค้าแข้งในถิ่น เมน โร้ด ต่อไป ทั้ง ๆ ที่ได้รับความสนใจจากทีมระดับท็อป ทั้ง บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน หรือ ลิเวอร์พูล

ถึงเขาทำผลงานได้ดีแค่ไหน เรือใบสีฟ้า กลับฟอร์มไม่กระเตื้อง พร้อมตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 1996-97 และอยู่กับทีมต่ออีกปี ก่อนถูกขายให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ ในปี 1998

ทว่าช่วงเวลาในแดนกังหันลม คินคลัดเซ่ ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ตลอด 1 ปีเศษ ๆ เขาลงเล่นเพียง 15 นัดเท่านั้น ทำให้ตัดสินใจมองหาสโมสรใหม่ และได้ย้ายกลับมาอังกฤษอีกครั้งในฤดูกาล 1999-2000 กับ ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ แบบยืมตัว

ด้วยฟอร์มที่น่าพอใจ ทำให้ แกะเขาเหล็ก เลือกซื้อขาดเขาหลังจบฤดูกาลด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติสโมสรจนถึงปี 2007 แต่การต้องผ้าตัดไส้เลื่อนช่วงต้นฤดูกาล 2000-01 ทำให้เขาพลาดเกมไปพอสมควร อีกทั้งเมื่อกลับมาได้ ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนเมื่อก่อน แต่อย่างน้อย แข้งชาวจอร์เจีย ก็ยังช่วยให้ทีมรอดตกชั้นได้สำเร็จ

ในฤดูกาลต่อมา คินคลัดเซ่ ก็ไม่ต่างจากฤดูกาลก่อนที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงสลับกับตัวสำรอง แต่การลาออกของ จิม สมิธ กุนซือผู้ดึงเขามาร่วมทีมในเดือนตุลาคมปี 2001 ทำให้โอกาสลงสนามของเขาลดลง เนื่องจากสไตล์การเล่นที่เปลี่ยนแปลงของทีมในยุคของ โคลิน ท็อด

ทว่าฟอร์มโดยรวมของทีมกลับแย่ลงไปกว่าเดิม จนต้องเปลี่ยนกุนซือเป็นครั้งที่ 2 ในฤดูกาล กับ จอห์น เกรกอรี่ ก่อนที่ ดาร์บี้ จะฝืนไม่ไหวหล่นไปเริ่มใหม่กันในลีกรองอีกครั้ง และกลายเป็นการตกชั้นหนที่ 3 ในชีวิตค้าแข้งของ คินคลัดเซ่

ด้วยปัญหาด้านการเงินทำให้ ดาร์บี้ พยายามจะเขี่ย คินคลัดเซ่ ออกจากทีม แม้ตอนแรกเจ้าตัวยืนยันว่าจะอยู่กับทีมต่อไปจนหมดสัญญาในปี 2003 แต่การเขาไม่ได้รับค่าเหนื่อยมา 3 เดือน ทำให้แสดงความต้องการย้ายทีมในเวลาต่อมา แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น ก่อนกลับมาโชว์เก่งอีกครั้งจนได้รับโหวตจากแฟนบอลให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมในปีนั้นไปครอง

เมื่อหมดสัญญากับ ดาร์บี้ ในซัมเมอร์ปี 2003 เขาก็กลายเป็นนักเตะไร้สังกัด ตระเวนไปฝึกซ้อมและทดสอบฝีเท้าทั่วสโมสรในอังกฤษ ทั้งกับ พอร์ทสมัธ หรือ ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่รับสัญญาอาชีพ

หลังเป็นแข้งไร้สังกัดมานานกว่า 1 ปีครึ่ง คินคลัดเซ่ ก็ได้เซ็นสัญญากับ อนอร์โธซิส สโมสรในไซปรัส เมื่อเดือนตุลาคมปี 2004 และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกมาครองในฤดูกาลนั้น พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกรอบคัดเลือกด้วย

ทว่า คินคลัดเซ่ ก็ตัดสินใจย้ายทีมอีกครั้งในช่วงบั้นปลายอาชีพกับ รูบิน คาซาน สโมสรจากรัสเซียในปี 2005 ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จดั่งหวัง ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในปี 2007 ด้วยวัย 34 ปี

ชีวิตหลังค้าแข้ง คินคลัดเซ่ ได้ก้าวเข้ามาเป็นเอเย่นต์นักเตะในปี 2011 จากนั้นก็ไปนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของ อนอร์โธซิส จนถึงปี 2012 ก่อนจะหันหลังให้วงการฟุตบอล ด้วยการผลิตแบรนด์ไวน์ของตัวเองในบ้านเกิด ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา

คินคลัดเซ่ ถือเป็นเพลย์เมกเกอร์อีกคนในพรีเมียร์ลีกที่มีความสามารถครบเครื่อง ทั้งการสร้างสรรค์โอกาส, การลากเลื้อย, วิสัยทัศน์ หรือ การเล่นลูกนิ่ง ด้วยสิ่งเหล่านี้เองทำให้หลายคนมองว่าเขามีศักยภาพมากพอในการก้าวเป็นยอดนักเตะเบอร์ต้น ๆ ในพรีเมียร์ลีก

น่าเสียดายที่ความยอดเยี่ยมเหล่านั้นเกิดขึ้นผิดเวลากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังเป็นแค่ทีมกลางตารางที่ต้องหนีตกชั้นในบางปีเท่านั้น รวมถึงช่วงเวลาค้าแข้งในแดนผู้ดีหนที่ 2 กับ ดาร์บี้ ก็ไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวังเท่าไรนัก

อย่างไรก็ตาม หากถามแฟน ๆ ‘เรือใบสีฟ้า’ ว่าใครคือนักเตะที่ดีที่สุดของสโมสร จะต้องมีชื่อของ จอร์จี้ คินคลาดเซ่ รวมเคียงกับ ดาบิด ซิลวา, ยาย่า ตูเร่ หรือ เซร์คิโอ้ อเกวโร่ อย่างแน่นอน

…………………………………………………………….

…………………………………………………………….

กลุ่มลับทีเด็ด Exclusive “สูงหลัง บอลไหล คัดจากใจ” bit.ly/Over2H
เจ้าเดียวในไทย
แทงขั้นต่ำ 10 ฿
สเต็ปเริ่มต้น 2 คู่
ฝากถอนขั้นต่ำ 100 ฿
ครบจบทั้งบอล/มวย/คาสิโน/สล็อต

มีบอลสดในเว็บให้ดูฟรี
บอลเปิดเยอะกว่าสโบ
เล่นเว็บนี้ไม่มีโกงล้าน%
กิจกรรมลุ้นเงินหมื่นในกลุ่มเพียบ!
ฟรีเสื้อบอล เครดิต เงินสด มากมาย!!
┏━━━━━━━━━━━┓
สมัครแอดLINE: @BIGBONUS
┗━━━━━━━━━━━┛
หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@bigbonus

…………………………………………………………….

<<<คิกออฟไทยแลนด์ Kickoffthailand วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ แม่นยำ หลากหลาย มีครบทั้ง บองเต็ง บอลรอง บอลชุด บอลสเต็บ สกอร์สูงต่ำ พร้อมสาระน่าอ่านกับ บทความลูกหนัง ที่จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปพบกับเรื่องราวของ ตำนานพรีเมียร์ลีก รวมถึงมี คลิปฟุตบอล ที่เจาะนักเตะชนิดรายคน>>>

…………………………………………………………….

The post จอร์จี้ คินคลัดเซ่ : ดาวเตะขวัญใจแฟนเรือใบยุค 90 appeared first on Kickoff Thailand วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล บอลเต็ง บอลรอง สูงต่ำ.